ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรปรับตัวลง โดยสัญญาถั่วเหลืองปรับตัวลงต่อเนื่องกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนลดการทำโพซิชั่น และเข้าเทขายทำกำไรหลังจากที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 0.5 เซนต์ หรือ 0.14% ปิดที่ 3.485 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 6 เซนต์ หรือ 1.47% ปิดที่ 4.0275 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 10.25 เซนต์ หรือ 0.98% ปิดที่ 10.3225 ดอลลาร์/บุชเชล
ราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงขึ้นกว่า 8% เมื่อวานนี้ ส่งผลให้ตลาดสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้นในช่วงแรก อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์การส่งออกที่อ่อนแอ ประกอบกับสต็อกสินค้าการเกษตรที่มีปริมาณมาก
รายงานของกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ระบุว่า ผู้ส่งออกสหรัฐขายถั่วเหลือง 123,000 ตันเพื่อส่งมอบไปยังจีนในปีผลผลิต 2559/2560 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จีนทำการซื้อขายสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรกับสหรัฐนับตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน
สัญญาข้าวโพดปรับตัวผันผวน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงแรก ก่อนจะได้รับแรงกดดันจากการเทขายทำกำไรของนักลงทุนในช่วงสิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน อย่างไรก็ตาม ราคาข้าวโพดร่วงลงกว่า 6% ในปีนี้ เนื่องจากตลาดมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับปริมาณสต็อกผลผลิตภายในประเทศและตลาดโลกที่ดีดตัวสูงขึ้น
สัญญาข้าวสาลีปรับตัวลดลง หลังเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกของสหรัฐ เนื่องจากผลผลิตจะมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้นำเข้าในต่างประเทศที่ถือเงินสกุลอื่น