สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรเมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) สัญญาธัญพืชปิดตลาดไร้ทิศทาง โดยถั่วเหลืองปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมองข้ามอุปสงค์จากตลาดเอเชีย และหันไปเทขายปรับโพสิชั่นขณะที่ปริมาณผลผลิตทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 4.5 เซนต์ หรือ 1.26% ปิดที่ 3.535 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 7.25 เซนต์ หรือ 1.81% ปิดที่ 4.0825 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 22 เซนต์ หรือ 2.1% ปิดที่ 10.27 ดอลลาร์/บุชเชล
นอกจากนี้ การที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้เสนอชื่อนายสก็อต พรูอิตต์ อัยการสูงสุดรัฐโอคลาโฮมา เป็นผู้นำองค์กรพิทักษ์สิ่งแวดล้อมของสหรัฐ (EPA) นั้น ยังก่อให้เกิดความกังวลว่า เอทานอลซึ่งผลิตจากข้าวโพดและไบโอดีเซลซึ่งผลิตจากถั่วเหลืองนั้น จะได้รับการสนับสนุนลดลง โดยเครดิตเชื้อเพลิงทดแทนของสหรัฐได้ร่วงลงอย่างหนักจากข่าวดังกล่าว
ในขณะเดียวกัน บรรดาเทรดเดอร์คาดการณ์ว่า กองทุนสินค้าโภคภัณฑ์ได้ขายสุทธิสัญญาถั่วเหลืองไปแล้ว 15,000 สัญญา
สำนักงานอุปทานถั่วเหลืองในสังกัดรัฐบาลบราซิลคาดการณ์ว่า บราซิลจะมีผลผลิตถั่วเหลืองทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 102.45 ล้านตัน ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาอาร์เจนตินาได้พยากรณ์ว่า พื้นที่แห้งแล้งในอาร์เจนตินาอาจมีฝนตกภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า
สัญญาข้าวสาลีปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังซาอุดิอาระเบียได้ประกาศเปิดรับข้อเสนอขายข้าวสาลีจำนวน 715,000 ตัน สำหรับการส่งมอบระหว่างวันที่ 1 ก.พ.- 10 เม.ย.
นอกจากนี้ อินเดียยังได้ยกเลิกภาษีนำเข้าข้าวสาลี 10% เมื่อวานนี้ หลังจากที่เผชิญกับภาวะแห้งแล้งมาเป็นเวลาถึง 2 ปี จนส่งผลให้ข้าวสาลีหมดสต็อกและมีราคาสูง โดยเทรดเดอร์มองว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจทำให้มีการนำเข้าสูงสุดในรอบทศวรรษ
กระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) คาดการณ์ว่า ผลผลิตถั่วเหลืองจะอยู่ที่ 4.36 พันล้านบุชเชล หรือ 52.5 บุชเชลต่อเอเคอร์ ส่วนผลผลิตข้าวโพดอยู่ที่ 1.52 หมื่นล้านบุชเชล หรือ 175.3 บุชเชลต่อเอเคอร์ ซึ่งล้วนทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์