ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวันศุกร์ (23 ธ.ค.) สัญญาธัญพืชปิดปรับตัวลง ขณะที่การซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนถึงวันหยุดในช่วงเทศกาลคริสต์มาส
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 1.5 เซนต์ หรือ 0.43% ปิดที่ 3.4575 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 3.5 เซนต์ หรือ 0.88% ปิดที่ 3.935 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 6.5 เซนต์ หรือ 0.65% ปิดที่ 9.975 ดอลลาร์/บุชเชล
สัญญาถั่วเหลืองปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์ ขณะที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศอันแห้งแล้งในอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตถั่วเหลืองรายใหญ่ของโลก เนื่องจากมีพยากรณ์อากาศว่าจะเกิดฝนตกในพื้นที่แถบตอนเหนือของอาร์เจนตินาและพื้นที่ส่วนใหญ่ของบราซิล ส่งผลให้เกษตรกรอาจเก็บเกี่ยวพืชผลได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังส่งกระทบต่อปริมาณการส่งออกถั่วเหลืองของสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศคู่แข่งของอาร์เจนตินา
การที่ราคาถั่วเหลืองร่วงลงเกือบ 5% ในสัปดาห์ที่แล้วนั้น ทำให้บรรดาเทรดเดอร์ต่างจับตาดูว่าตลาดถั่วเหลืองกำลังเข้าสู่ภาวะตลาดขาลงหรือไม่ หลังจากที่ราคาถั่วเหลืองปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา ถึงแม้อุปสงค์ในถั่วเหลืองของสหรัฐจะยังคงมีความแข็งแกร่งในฤดูกาลนี้ แต่คาดว่าเทรดเดอร์ต่างชาติจะชะลอการซื้อขายในช่วงปีใหม่ เนื่องจากรอผลผลิตใหม่จากประเทศแถบอเมริกาใต้ ส่งผลให้สัญญาถั่วเหลืองมีแนวโน้มปรับตัวลงต่อไป
สัญญาข้าวโพดปรับตัวลงเกือบ 3% ตลอดทั้งสัปดาห์ และปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อวันศุกร์ ขณะที่การซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากปริมาณอุปทานข้าวโพดทั้งในประเทศและต่างประเทศมีจำนวนมาก ประกอบกับการที่สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆในตะกร้าเงิน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตรของสหรัฐ
สัญญาข้าวสาลีปรับตัวลงด้วยปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง สืบเนื่องจากอุปสงค์อ่อนตัวลง ขณะที่ผลผลิตในต่างประเทศพุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะออสเตรเลียซึ่งสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ปริมาณสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ การแข็งค่าขึ้นของดอลลาร์ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ข้าวสาลีของสหรัฐสูญเสียความสามารถทางการแข่งขันลงในตลาดโลก