ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวันศุกร์ (13 ม.ค.) สัญญาถั่วเหลืองปรับตัวเพิ่มขึ้น ด้วยแรงซื้อของนักลงทุน ภายหลังจากที่กระทรวงเกษตรของสหรัฐ (USDA) ได้ปรับลดประมาณการการผลิตภายในประเทศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 6 เซนต์ หรือ 0.58% ปิดที่ 10.4625 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 0.25 เซนต์ หรือ 0.07% ปิดที่ 3.585 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 0.25 เซนต์ หรือ 0.06% ปิดที่ 4.2625 ดอลลาร์/บุชเชล
ราคากากถั่วเหลืองที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยที่หนุนให้ราคาถั่วเหลืองปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเกิดความวิตกหลังจากมีรายงานพยากรณ์อากาศว่า จะเกิดฝนตกลงมามากขึ้นในอาร์เจนตินา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิตกากถั่วเหลืองของอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกกากถั่วเหลืองรายใหญ่ของโลก
ขณะที่อุปสงค์ถั่วเหลืองส่งออกของสหรัฐส่งสัญญาณขยายตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ส่งผลให้สัญญาถั่วเหลืองดีดตัวขึ้นเช่นกัน
กระทรวงเกษตรของสหรัฐระบุในวันศุกร์ที่แล้วด้วยว่า กลุ่มผู้ส่งออกภาคเอกชนเปิดเผยรายงานยอดขายถั่วเหลืองสำหรับส่งมอบไปยังประเทศต่างๆมีปริมาณรวมทั้งสิ้น 132,000 ตัน ซึ่งเป็นยอดขายที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่สัญญาข้าวสาลีปรับตัวขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯระบุว่า ปริมาณการหว่านเมล็ดข้าวสาลีในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา อยู่ในระดับต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ และเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบกว่า 1 ศตวรรษ
สำหรับภาวะการค้าข้าวสาลีระหว่างประเทศต่างๆเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการด้านธัญพืชของตุรกี (TMO) ได้สั่งซื้อข้าวสาลีที่ปลูกในสหภาพยุโรป ในปริมาณ 99,000 ตัน ขณะที่ตูนิเซียซื้อข้าวสาลีดูรัมราว 100,000 ตัน และบริษัทเมเจอร์ ฟีดมิลล์ กรุ๊ปของเกาหลีใต้ ซื้อข้าวสาลีประมาณ 60,000 ตัน