ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) สัญญาธัญพืชปิดผันผวน โดยสัญญาข้าวโพดปิดร่วงลงเกือบ 2% จากหลายปัจจัยได้แก่ การที่นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังสัญญาข้าวโพดปรับตัวสูงสุดในรอบหลายเดือน สภาพอากาศที่ดีขึ้นในอาร์เจนตินา และความไม่แน่นอนในนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกธัญพืช
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 6.5 เซนต์ หรือ 1.69% ปิดที่ 3.6325 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 6.5 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 4.2675 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 0.75 เซนต์ หรือ 0.07% ปิดที่ 10.585 ดอลลาร์/บุชเชล
สำหรับสัญญาข้าวโพดนั้นมีการเคลื่อนไหวมากที่สุด โดยสัญญาได้ปรับตัวขึ้นในช่วงแรก จากการรายงานของกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ที่ระบุว่า ผู้ส่งออกเอกชนได้ส่งออกข้าวโพดไปยังที่หมายที่ไม่ระบุชื่อจำนวน 125,000 ตัน อย่างไรก็ตาม สัญญาข้าวโพดกลับปรับตัวลงในช่วงเวลาถัดมา
ด้านนักวิเคราะห์มองว่า สาเหตุที่ทำให้สัญญาข้าวโพดปรับตัวลงนั้นมาจากความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของการซื้อขายสินค้าเกษตรกรรมของสหรัฐ หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดี เตรียมเจรจาแก้ไขความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ที่สหรัฐได้ลงนามไว้ร่วมกับเม็กซิโกและแคนาดา ประกอบกับการที่ทรัมป์ประกาศให้สหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP)
ด้านรัฐมนตรีเศรษฐกิจของเม็กซิโกกล่าวว่า เม็กซิโกอาจถอนตัวออกจาก NAFTA หากสิ่งที่ทรัมป์เสนอมาไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของเม็กซิโก
ส่วนสัญญาถั่วเหลืองปรับตัวลงติดต่อกัน 4 วันทำการ หลังได้รับแรงกดดันจากพยากรณ์อากาศในอาร์เจนตินาที่ค่อนข้างเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก หลังก่อนหน้านี้ อาร์เจนตินาต้องประสบภัยน้ำท่วมที่ส่งผลกระทบต่อการปลูกและการเก็บเกี่ยวผลผลิต
สำหรับตัวเลขการเพาะปลูกข้าวโพดและถั่วเหลืองนั้น นักวิเคราะห์จาก Informa Economics ได้เพิ่มการคาดการณ์ตัวเลขเพาะปลูกข้าวโพดในปี 2560 เป็น 90.489 ล้านเอเคอร์ จากเดิมที่ 90.151 ล้านเอเคอร์ ขณะที่ลดการคาดการณ์จำนวนการเพาะปลูกถั่วเหลืองลงสู่ระดับ 88.647 ล้านเอเคอร์ จากเดิมที่ระดับ 88.862 ล้านเอเคอร์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน