ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (2 มี.ค.) สัญญาธัญพืชปรับตัวลดลง นำโดยสัญญาถั่วเหลือง เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์การเก็บเกี่ยวในบราซิลซึ่งคาดว่าจะมีผลผลิตทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และยังเกิดแรงขายทำกำไรหลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 วันติดต่อกันอันเป็นผลจากแรงซื้อกลุ่มกองทุนด้วย
สัญญาข้าวโพดและข้าวสาลีปรับตัวลดลงเช่นกัน
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 2.5 เซนต์ หรือ 0.65% ปิดที่ 3.795 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 4.25 เซนต์ หรือ 0.93% ปิดที่ 4.5275 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 14.5 เซนต์ หรือ 1.38% ปิดที่ 10.3725 ดอลลาร์/บุชเชล
สัญญาถั่วเหลืองปรับตัวลดลง เนื่องจากตลาดยังคงคาดการณ์ว่า ผลผลิตถั่วเหลืองบราซิลจะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยทาง Informa Economics ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลผลิตบราซิลแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 108 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2 ล้านตันจากการคาดการณ์ครั้งก่อนหน้า
ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ล่าสุดจากทางการบราซิล (Conab) ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีผลผลิต 105.6 ล้านตัน และตัวเลขคาดการณ์จากกระทรวงเกษตรสหรัฐที่ 104 ล้านตัน
ก่อนหน้านี้ ทางทำเนียบขาวได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่า ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ เตรียมออกคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อแก้ไขโครงการเชื้อเพลิงชีวภาพของประเทศ หลังสมาคมเชื้อเพลิงทดแทนแห่งสหรัฐเปิดเผยว่า คณะทำงานของปธน.ทรัมป์ได้แจ้งมาว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงพิจารณาคำสั่ง
สัญญาข้าวสาลีได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ซึ่งมักส่งผลให้สัญญาธัญพืชสหรัฐมีความดึงดูดใจลดลงในตลาดโลก
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ด้วยแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
รายงานยอดขายเพื่อการส่งออกรอบสัปดาห์จากกระทรวงเกษตรสหรัฐบ่งชี้ว่า ในรอบสัปดาห์ที่ 23 ก.พ. สหรัฐได้ขายข้าวสาลีไป 13 ล้านบุชเชล ข้าวโพด 27.3 ล้านบุชเชล และถั่วเหลืองอีก 15.7 ล้านบุชเชล สำหรับการส่งออกไปต่างประเทศ