ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรปิดลบทั้งกระดาน เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์อาจทำให้สินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐมีความสามารถในการแข่งขันน้อยลงในตลาดโลก
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 0.5 เซนต์ หรือ 0.14% ปิดที่ 3.505 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 3.75 เซนต์ หรือ 0.86% ปิดที่ 4.3175 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 4.25 เซนต์ หรือ 0.44% สู่ระดับ 9.7125 ดอลลาร์/บุชเชล
ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโรและสกุลเงินหลักๆ หลังจาก ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ ที่ระดับ 0% อันเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.4% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
นอกจากนี้ ECB ประกาศว่าจะขยายเวลาโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ไปจนถึงเดือนก.ย.ปีหน้า แต่จะลดวงเงินลงสู่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน จากระดับปัจจุบันที่ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนม.ค. ปีหน้าเป็นต้นไป
การตัดสินใจดังกล่าวของ ECB ส่งผลให้สกุลเงินยูโรร่วงลง และเป็นการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้แก่สินค้าเกษตรที่ส่งออกจากยูโรโซน เช่น ข้าวสาลี แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ความสามารถในการแข่งขันของสินค้าเกษตรสหรัฐลดลงในตลาดโลก
กระทรวงเกษตรสหรัฐเปิดเผยรายงานยอดขายสินค้าส่งออกประจำสัปดาห์ ซึ่งมีข้อมูลระบุว่า ยอดส่งออกถั่วเหลืองมีการขยายตัวที่ดีเกินคาด ขณะที่ยอดส่งออกข้าวโพดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และยอดส่งออกข้าวสาลีปรับตัวขึ้นเช่นกัน
อย่างไรก็ดี ข้อมูลยอดส่งออกไม่สามารถกระตุ้นราคาสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ให้ดีดตัวขึ้นได้