ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) สัญญาธัญพืชปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งกระดาน โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากที่สัญญาร่วงลงอย่างหนักก่อนหน้านี้
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 0.25 เซนต์ หรือ 0.06% ปิดที่ 3.9075 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.5 เซนต์ หรือ 0.31% ปิดที่ 4.9075 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.75 เซนต์ หรือ 0.17% ปิดที่ระดับ 10.41 ดอลลาร์/บุชเชล
โบรกเกอร์ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์รายงานว่า กลุ่มกองทุนได้ขายสัญญาข้าวโพด 4,600 ฉบับ ขายสัญญาถั่วเหลือง 2,100 ฉบับ แลขายสัญญาข้าวสาลี 3,200 ฉบับ
สัญญาข้าวสาลีและสัญญาถั่วเหลืองร่วงลงกว่า 2% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์สต็อกข้าวสาลีและถั่วเหลืองในรายงานผลผลิตประจำเดือน
ขณะที่สัญญาข้าวสาลีก็ยังคงชะลอตัวลงในการซื้อขายช่วงเช้าของวันจันทร์ ก่อนจะพลิกกลับมาปิดตลาดในแดนบวก
นอกจากนี้ การที่ฝนไม่ตกลงมาในพื้นที่เพาะปลูกถั่วเหลืองของอาร์เจนตินา ประกอบกับมีรายงานออกมาว่า ความแห้งแล้งจะยังคงดำเนินอยู่ต่อไปนั้น ยังเป็นปัจจัยหนุนให้สัญญาถั่วเหลืองปรับตัวขึ้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การลงนามในคำสั่งเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้สร้างความวิตกกังวลต่อเกษตรกรว่า ประเทศต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งดังกล่าวอาจจะหันมาตอบโต้ โดยพุ่งเป้าไปที่ผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองของสหรัฐ หากปัญหาการค้าไม่ได้รับการแก้ไขผ่านการเจรจาระดับทวิภาคี