ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (14 มิ.ย.) สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน หลังสถานการณ์ด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง
สื่อของสหรัฐรายงานว่ารัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน มูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงข่าวดังกล่าวส่งผลทำให้ราคาสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรปรับตัวลดลง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 13 เซนต์ หรือ 3.46% ปิดที่ 3.63 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 15 เซนต์ หรือ 2.9% ปิดที่ 5.015 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 8.75 เซนต์ หรือ 0.93% ปิดที่ 9.2725 ดอลลาร์/บุชเชล
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้จัดการประชุมหารือกับที่ปรึกษาทางการค้าของทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ เพื่อที่จะตัดสินใจในวันนี้ว่า สหรัฐจะมีการประกาศรายชื่อสินค้าจีนวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ที่จะถูกเรียกเก็บภาษีหรือไม่
ทั้งนี้ คาดว่าหากสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้าจีน ก็จะส่งผลให้จีนตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีสินค้าสหรัฐ ซึ่งรวมถึงถั่วเหลือง, เคมีภัณฑ์, รถยนต์ และเครื่องบิน
นอกจากนี้ รายงานการพยากรณ์อากาศที่ระบุถึงสภาพอากาศที่เหมาะสมต่อการเพาะปลูกในพื้นที่ตะวันตกตอนกลางของสหรัฐนั้น ส่งผลให้สัญญาข้าวโพดลดลง
ทางด้าน Researcher Informa คาดการณ์ว่าพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดในสหรัฐปี 2561 จะอยู่ที่ 88.7 ล้านเอเคอร์ มากกว่าตัวเลขที่กระทรวงเกษตรสหรัฐเคยคาดการณ์ไว้ที่ 88 ล้านเอเคอร์ ขณะที่พื้นที่เพาะปลูกถั่วเหลืองคาดว่าจะอยู่ที่ 89.9 ล้านเอเคอร์ มากกว่าตัวเลขคาดการณ์ของกระทรวงเกษตรสหรัฐซึ่งคาดการณ์ไว้ที่ 89 ล้านเอเคอร์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน