ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (2 ส.ค.) สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรปรับตัวไร้ทิศทาง โดยสัญญาข้าวสาลีปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากปริมาณผลผลิตปรับตัวลง ขณะที่สัญญาถั่วเหลืองปรับตัวลดลงเนื่องด้วยสถานการณ์ตึงเครียดทางการค้า
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.75 เซนต์ หรือ 0.46% ปิดที่ 3.8125 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 2.25 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 5.605 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 4.25 เซนต์ หรือ 0.47% ปิดที่ 8.975 ดอลลาร์/บุชเชล
สถานการณ์ตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนนั้นยังคงเป็นปัจจัยกดดันราคาถั่วเหลือง ซึ่งหลุดระดับ 9 ดอลลาร์/บุชเชลอีกครั้ง
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้สั่งการให้นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) พิจารณาปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสู่ระดับ 25% คิดเป็นวงเงินรวม 2 แสนล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน สัญญาข้าวสาลีตลาด CBOT ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังมีข่าวลือว่า ทางการยูเครนกำลังพิจารณาเรียกเก็บภาษีส่งออกหรือมีคำสั่งห้ามส่งออกข้าวสาลี หลังสภาพอากาศที่รุนแรงได้ส่งผลให้ผลผลิตปรับตัวลดลง
ข่าวลือดังกล่าวถูกปฏิเสธในหลังจากนั้น ซึ่งช่วยคลายความกังวลในตลาด อย่างไรก็ดี ราคาข้าวสาลีตลาด CBOT ได้ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนก.ค. 2558
ด้านโบรกเกอร์ในตลาด CBOT รายงานว่า กลุ่มกองทุนได้ซื้อสัญญาข้าวสาลีไป 6,000 ฉบับ และสัญญาข้าวโพด 5,400 ฉบับ ขณะที่ขายสัญญาถั่วเหลืองไป 4,500 ฉบับ