ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (21 มี.ค.) สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับความเสียหายจากภัยน้ำท่วมในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 4.75 เซนต์ หรือ 1.28% ปิดที่ 3.7625 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.75 เซนต์ หรือ 0.38% ปิดที่ 4.665 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 4.5 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 9.105 ดอลลาร์/บุชเชล
ตลาดได้แรงหนุนจากภาวะน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของเขตมิดเวสต์ เนื่องจากฝนตกหนักและหิมะละลายนั้น ทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับความเสียหายของผลผลิตเกษตรในรัฐเนบราสกาและไอโอวา ซึ่งได้รับผลกระทบมากที่สุด
สัญญาข้าวโพดตลาด CBOT ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 1% เนื่องจากเทรดเดอร์มีความกังวลว่า ภัยน้ำท่วมดังกล่าวอาจทำให้การเพาะปลูกข้าวโพดต้องล่าช้าออกไป
นอกจากนี้ สัญญาข้าวสาลีตลาด CBOT ยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ และประธานาธิบดีซาอีร์ โบลโซนาโรแห่งบราซิล ได้บรรลุข้อตกลงการค้า โดยบราซิลจะใช้โควตาอัตราภาษีนำเข้า ซึ่งจะส่งผลให้สามารถนำเข้าข้าวสาลีสหรัฐ 750,000 ตันต่อปีโดยไม่ต้องเสียภาษี
ข้อตกลงการค้าดังกล่าวหนุนสัญญาข้าวสาลีทะยานขึ้น เนื่องจากเพิ่มโอกาสในการส่งออกข้าวสาลีสหรัฐครั้งใหม่ ขณะที่ข้าวสาลีจากต่างประเทศนั้นปกติจะต้องเสียภาษีนำเข้า 10% ในบราซิล นอกเสียว่าจะเป็นข้าวสาลีที่ปลูกในกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคอเมริกาใต้ (Mercosur) ซึ่งมีประเทศสมาชิกรวม 4 ประเทศ คือ บราซิล อาร์เจนติน่า อุรุกวัย และปารากวัย