ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) สัญญาถั่วเหลืองปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปี เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 6.75 เซนต์ หรือ 0.83% ปิดที่ 8.025 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 4.75 เซนต์ หรือ 1.35% ปิดที่ 3.565 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 12.25 เซนต์ หรือ 2.88% ปิดที่ 4.37 ดอลลาร์/บุชเชล
กระทรวงการคลังของจีนแถลงเมื่อวานนี้ว่า จีนจะเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐเพิ่มเติม โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย.
คณะกรรมาธิการด้านภาษีศุลกากรสภาแห่งรัฐจีนออกแถลงการณ์ว่า จีนจะเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ในระดับ 25% 20% และ 10%
การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่สหรัฐได้ประกาศเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจีนเพิ่มขึ้นในวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ จาก 10% มาเป็น 25% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ การเพาะปลูกที่ล่าช้าในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐเนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ซึ่งทำให้เกษตรกรต้องหันมาปลูกถั่วเหลืองแทนข้าวโพด ยังเป็นแรงกดดันที่เข้ามากระทบต่อราคาสัญญาถั่วเหลืองด้วย
ส่วนสัญญาข้าวสาลีเริ่มฟื้นตัวขึ้น หลังจากข้อมูลในรายงานการส่งออกประจำสัปดาห์ของกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) พบว่า สหรัฐมีการส่งออกข้าวสาลีไปยังตลาดต่างประเทศเป็นจำนวน 842,418 ตัน สูงกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้
ขณะเดียวกัน สัญญาข้าวโพดก็ปรับตัวขึ้น ท่ามกลางความกังวลถึงไม่แน่นอนในการเพาะปลูกข้าวโพดและข้าวสาลีพันธุ์ฤดูใบไม้ผลิของสหรัฐ เนื่องจากสภาพอากาศที่ชื้นแฉะและหนาวเย็นได้ส่งผลให้การเพาะปลูกของเขตมิดเวสต์ต้องล่าช้าออกไป