ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) สัญญาถั่วเหลืองพุ่งกว่า 3% เนื่องด้วยแรงซื้อเพื่อชดเชยการทำชอร์ตเซลและเก็งกำไร ซึ่งเข้ามาสกัดปัจจัยลบจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ หรือ 3.61% ปิดที่ 8.315 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 12.25 เซนต์ หรือ 3.44% ปิดที่ 3.6875 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 11.5 เซนต์ หรือ 2.63% ปิดที่ 4.485 ดอลลาร์/บุชเชล
สัญญาถั่วเหลืองดีดตัวขึ้นเนื่องด้วยแรงซื้อเพื่อชดเชยการทำชอร์ตเซลและเก็งกำไร หลังสัญญาถั่วเหลืองปรับตัวแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่าทศวรรษเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพราะได้รับปัจจัยกดดันจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน
สัญญาถั่วเหลืองร่วงลงอย่างหนักในการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังกระทรวงการคลังของจีนแถลงว่า จีนจะเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐเพิ่มเติม โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย.
การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่สหรัฐได้ประกาศเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจีนเพิ่มขึ้นในวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ จาก 10% มาเป็น 25% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาข้าวโพดและข้าวสาลีปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน หลังกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) รายงานว่า การเพาะปลูกข้าวโพดและข้าวสาลีล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้
รายงานดังกล่าวระบุว่า เกษตรกรสหรัฐได้หว่านเมล็ดข้าวโพดไปเพียง 30% ณ วันที่ 12 พ.ค.
ส่วนถั่วเหลืองนั้นเพาะปลูกไปแล้ว 9% ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ยรอบ 5 ปีที่ 29% และยังน้อยกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่คาดไว้ที่ 15%