ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวันศุกร์ (24 พ.ค.) สัญญาธัญพืชปิดพุ่งขึ้นทั้งกระดาน โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อเก็งกำไร นอกจากนี้ สภาพอากาศแปรปรวนซึ่งทำให้การเพาะปลูกต้องล่าช้าออกไปนั้น ยังเป็นปัจจัยหนุนสัญญาธัญพืชเช่นกัน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 14.5 เซนต์ หรือ 3.72% ปิดที่ 4.0425 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 19.25 เซนต์ หรือ 4.09% ปิดที่ 4.895 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 8.25 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 8.2975 ดอลลาร์/บุชเชล
สัญญาข้าวโพดดีดตัวขึ้นหลังจากรายงานพยากรณ์อากาศระบุว่า จะมีฝนตกมากขึ้นในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลให้การหว่านเมล็ดพืชต้องล่าช้าออกไป โดยปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนสัญญาข้าวโพดปิดที่เหนือระดับ 4 ดอลลาร์/บุชเชลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค. 2561
ขณะที่สัญญาข้าวสาลีทะยานขึ้นกว่า 4% เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาได้ร่วงลงอย่างหนักในช่วง 2 วันทำการก่อนหน้านั้น นอกจากนี้ สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ตอนใต้ของสหรัฐยังทำให้เกิดความกังวลว่าจะสร้างความเสียหายต่อการเพาะปลูกข้าวสาลี ซึ่งนับเป็นอีกปัจจัยที่หนุนราคาข้าวสาลีพุ่งขึ้นด้วย
ส่วนสัญญาถั่วเหลืองได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาร่วงลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา รวมทั้งปัจจัยหนุนจากข่าวความล่าช้าในการเพาะปลูกถั่วเหลืองในสหรัฐ
เทรดเดอร์ในตลาด CBOT ประมาณการว่า กลุ่มกองทุนได้เข้าซื้อสัญญาข้าวโพดจำนวน 6,500 ฉบับ, สัญญาข้าวสาลี 4,300 ฉบับ และเข้าซื้อสัญญาถั่วเหลือง 3,200 ฉบับ