ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (19 พ.ย.) สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งกระดาน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากความล่าช้าในการเก็บเกี่ยว ขณะที่รายงานคุณภาพผลผลิตออกมาไม่น่าพอใจ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.25 เซนต์ หรือ 0.61% ปิดที่ 3.70 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 4.5 เซนต์ หรือ 0.88% ปิดที่ 5.1525 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.25 เซนต์ หรือ 0.14% ปิดที่ 9.115 ดอลลาร์/บุชเชล
รายงานความคืบหน้าประจำสัปดาห์จากกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ระบุว่า ข้าวโพดสหรัฐถูกเก็บเกี่ยวไปแล้ว 76% ณ วันที่ 17 พ.ย. ซึ่งน้อยกว่าปีที่แล้วซึ่งเก็บเกี่ยวไป 89% และยังน้อยกว่าค่าเฉลี่ยรอบปี 2557-2561 ซึ่งอยู่ที่ 92%
สัญญาข้าวโพดยังได้รับปัจจัยหนุนจากยอดส่งออกล่าสุด โดยกระทรวงเกษตรสหรัฐ ยืนยันว่า ผู้ส่งออกภาคเอกชนมียอดขายเพื่อส่งออกข้าวโพด 191,000 ตันไปยังจุดหมายไม่ทราบตำแหน่งในปีการตลาด 2562/2563 ซึ่งเริ่มเมื่อวันที่ 1 ก.ย.
สำหรับถั่วเหลืองนั้น รายงานระบุว่าถั่วเหลืองถูกเก็บเกี่ยวไปแล้ว 91% สอดคล้องกับระดับของปีที่แล้ว แต่น้อยกว่าค่าเฉลี่ยรอบ 5 ปีซึ่งอยู่ที่ 95%
ขณะเดียวกัน กระทรวงเกษตรสหรัฐ ยังระบุด้วยว่า ผลผลิตข้าวสาลีรอบฤดูหนาวของสหรัฐจัดว่าอยู่ในเกรดดีถึงดีเยี่ยมประมาณ 52% เมื่อเทียบกับระดับ 54% ของปีที่ผ่านมา และค่าเฉลี่ยรอบ 5 ปีที่ 56%
ความล่าช้าในการเก็บเกี่ยวผลผลิต ประกอบกับรายงานคุณภาพผลผลิตที่ไม่ค่อยน่าพึงพอใจ ส่งผลให้นักลงทุนซื้อสัญญาธัญพืชเพื่อเก็งกำไร เพราะคาดการณ์ว่าผลผลิตในตลาดจะปรับตัวลดลงจนทำให้ราคาธัญพืชแพงขึ้น