ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (31 มี.ค.) สัญญาธัญพืชปรับตัวไร้ทิศทาง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 0.5 เซนต์ หรือ 0.15% ปิดที่ 3.4075 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 0.75 เซนต์ หรือ 0.13% ปิดที่ 5.6875 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค. ปรับตัวขึ้น 3.75 เซนต์ หรือ 0.43% ปิดที่ 8.86 ดอลลาร์/บุชเชล
สต็อกข้าวโพดสหรัฐ ณ วันที่ 1 มี.ค. ค่อนข้างเยอะ ขณะที่ยอดการหว่านเมล็ดข้าวโพดประจำปี 2563 ค่อนข้างซบเซา ส่วนยอดการหว่านเมล็ดถั่วเหลืองปี 2563 ของสหรัฐค่อนข้างเยอะ ขณะที่สต็อกถั่วเหลืองค่อนข้างน้อย และสำหรับข้าวสาลี ทั้งจำนวนสต็อกและยอดการหว่านเมล็ดเป็นไปตามการคาดการณ์
สำหรับข้าวโพดนั้น คาดว่ามีการหว่านเมล็ดไป 97 ล้านเอเคอร์ในปีนี้ ซึ่งสร้างความประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังเป็นยอดการหว่านเมล็ดข้าวโพดที่มากที่สุดของสหรัฐนับตั้งแต่ปี 2555 โดยสต็อกข้าวโพดสหรัฐเดือนมี.ค. อยู่ที่ 7,953 ล้านบุชเชล ลดลง 660 ล้านบุชเชลจากเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความประหลาดใจเล็กน้อยในทางที่หนุนราคาข้าวโพด
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์เปิดเผยว่า ตัวเลขสต็อกดังกล่าวอยู่ในระดับที่เพียงพอ ขณะที่อุตสาหกรรมมีความเชื่อมั่นต่อกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ค่อนข้างต่ำในแง่ของจำนวนสต็อกข้าวโพด
ในขณะที่เกษตรกรสหรัฐหว่านเมล็ดข้าวโพดกินพื้นที่มากกว่าเดิม แต่ยอดการหว่านเมล็ดถั่วเหลืองของสหรัฐในปีนี้ออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์
สต็อกถั่วเหลืองสหรัฐ ณ วันที่ 1 มี.ค. อยู่ที่ 2,253 ล้านบุชเชล ลดลง 490 ล้านบุชเชลจากปีก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้น 16 ล้านบุชเชลเมื่อเทียบกับการคาดการณ์ในตลาด โดยสหรัฐมีความต้องการส่งออกถั่วเหลืองลดลง จึงทำให้สต็อกถั่วเหลืองมีอยู่พอประมาณ ซึ่งจะคอยกดราคาไม่ให้เกิน 9 ดอลลาร์
ส่วนข้าวสาลีสหรัฐปีนี้มีการหว่านเมล็ดลดลง 800,000 เอเคอร์จากปีที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์ในตลาดเปิดเผยว่า รายงานการหว่านเมล็ดจากกระทรวงเกษตรสหรัฐ เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดซึ่งส่งผลต่อทิศทางราคาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรตลาด CBOT ในระยะยาว โดยตลาดกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่มีปัจจัยสับสนมากมาย แต่ปัจจัยเหล่านี้ไม่น่าจะทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เว้นว่าจะมีปัจจัยสภาพอากาศรุนแรงเข้ามา