ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) สัญญาธัญพืชปรับตัวไร้ทิศทาง โดยสัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองปิดแดนลบเนื่องจากคำสั่งขายของกลุ่มกองทุน ส่วนสัญญาข้าวสาลีปรับตัวขึ้นจากปัจจัยสภาพอากาศ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 7 เซนต์ หรือ 2.13% ปิดที่ 3.2225 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 13.75 เซนต์ หรือ 2.58% ปิดที่ 5.475 ดอลลาร์/บุชเชล ส่วนสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 6 เซนต์ หรือ 0.71% ปิดที่ 8.3625 ดอลลาร์/บุชเชล
โบรกเกอร์ประมาณการว่า กลุ่มกองทุนได้เข้าซื้อสัญญาข้าวสาลี 6,700 สัญญา ขณะเดียวกันก็เทขายสัญญาข้าวโพดไป 8,100 สัญญา และสัญญาถั่วเหลือง 3,200 สัญญา
สัญญาซื้อขายข้าวโพดล่วงหน้าในตลาด CBOT ปรับตัวลงต่อเนื่อง จากผลกระทบของมาตรการให้ประชาชนอยู่บ้าน เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ความต้องการเอทานอลลดลง ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ข้าวโพดในสหรัฐ
ขณะที่สัญญาข้าวสาลี ยังคงมีความอ่อนไหวต่อสภาพอากาศในทะเลดำและยุโรปช่วงไม่กี่วันจากนี้
AgResource ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยสินค้าเกษตรจากซิคาโก ระบุว่า การเพาะปลูกข้าวสาลีพันธุ์ฤดูหนาวในซีกโลกเหนือซึ่งกำลังจะเข้าสู่ช่วงฤดูเก็บเกี่ยวในอีก 6 สัปดาห์จากนี้ อาจต้องประสบกับความยากลำบากหากปัญหาความเสียหายของผลผลิตในยูเครนและรัสเซียยังไม่บรรเทาลง
ส่วนสัญญาถั่วเหลืองปรับตัวลงต่อเนื่องจากความพยายามในการเปิดเผยความต้องการของจีน นักวิเคราะห์ระบุ
ด้านข้อมูลการส่งออกประจำสัปดาห์ นับจนถึงวันที่ 16 เม.ย. พบว่า ยอดส่งออกข้าวโพดอยู่ที่ 26.9 ล้านบุชเชล, ยอดส่งออกถั่วเหลืองอยู่ที่ 19.8 ล้านบุชเชล และยอดส่งออกข้าวสาลีอยู่ที่ 17.3 ล้านบุชเชล
เมื่อพิจารณาตลอดทั้งปีการเพาะปลูก นับจนถึงปัจจุบัน สหรัฐได้ส่งออกข้าวโพดไปตลาดต่างประเทศแล้วเป็นจำนวนทั้งสิ้น 835 ล้านบุชเชล หรือลดลง 36% ส่งออกถั่วเหลืองไปแล้วทั้งสิ้น 1,209 ล้านบุชเชล หรือลดลง 6% และส่งออกข้าวสาลีไปเป็นจำนวนทั้งสิ้น 897 ล้านบุชเชล เพิ่มขึ้น 45 ล้านบุชเชล หรือ 6%
อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์กันว่า กระทรวงเกษตรสหรัฐจะปรับลดคาดการณ์การส่งออกข้าวโพดและถั่วเหลืองปี 2562/63 ในรายงานคาดการณ์อุปสงค์และอุปทานประจำเดือนพ.ค.