ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (21 เม.ย.) สัญญาธัญพืชปิดตลาดไร้ทิศทาง โดยสัญญาข้าวโพดและข้าวสาลีปรับตัวลดลง ขณะที่สัญญาถั่วเหลืองปรับตัวเพิ่มขึ้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 5 เซนต์ หรือ 1.55% ปิดที่ 3.1725 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.25 เซนต์ หรือ 0.23% ปิดที่ 5.4625 ดอลลาร์/บุชเชล ส่วนสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 4.5 เซนต์ หรือ 0.54% ปิดที่ 8.4075 ดอลลาร์/บุชเชล
โบรกเกอร์ในตลาด CBOT คาดการณ์ว่า กลุ่มกองทุนได้ซื้อสัญญาข้าวสาลีไป 6,700 ฉบับ ขณะที่ขายสัญญาข้าวโพดไป 8,100 ฉบับ และถั่วเหลืองอีก 3,200 ฉบับ
สัญญาข้าวโพดถูกกดดันจากปัจจัยเอทานอลล้นตลาดอันเป็นผลจากคำสั่งให้ประชาชนอยู่บ้านเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดย AgResource ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยสินค้าเกษตรจากซิคาโก ระบุว่า เหล่านักวิเคราะห์ในตลาดพลังงานแย้งว่า สหรัฐมีปริมาณเอทานอลที่จะอยู่ได้อย่างน้อย 2 เดือนครึ่ง
ตลาดข้าวสาลีกำลังติดตามสภาพอากาศในภูมิภาคทะเลดำของยุโรปอย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้ยังคงแห้ง ขณะเดียวกัน ตลาดถั่วเหลืองกำลังรอให้จีนสนใจสั่งซื้อผลผลิตล็อตใหม่
สำนักงานสถิติการเกษตรของสหรัฐ (NASS) ในสังกัดกระทรวงเกษตร (USDA) เปิดเผยว่า ข้าวโพดและข้าวสาลีรอบฤดูใบไม้ผลิของสหรัฐมีการหว่านเมล็ดไปแล้ว 7% ซึ่ง AgResource เปิดเผยว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั้งคู่
ส่วนผลการตรวจผลผลิตก่อนส่งออกรายสัปดาห์ของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่ 16 เม.ย. พบว่ามีการตรวจข้าวโพดไปแล้ว 26.9 ล้านบุชเชล ถั่วเหลือง 19.8 ล้านบุชเชล และข้าวสาลี 17.3 ล้านบุชเชล โดยนับตั้งแต่ต้นปีนี้ สหรัฐได้ส่งออกข้าวโพดไปแล้ว 835 ล้านบุชเชล ลดลง 475 ล้านบุชเชล หรือ 36% ขณะที่ส่งออกถั่วเหลืองไป 1,209 ล้านบุชเชล เพิ่มขึ้น 69 ล้านบุชเชล หรือ 6% และส่งออกข้าวสาลีไป 897 ล้านบุชเชล เพิ่มขึ้น 45 ล้านบุชเชล หรือ 6%