ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรปิดตลาดไร้ทิศทางจากปัจจัยหลายอย่าง โดยสัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองปรับตัวลดลง ขณะที่สัญญาข้าวสาลีปรับตัวเพิ่มขึ้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.25 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 3.12 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.25 เซนต์ หรือ 0.24% ปิดที่ 5.26 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 4.5 เซนต์ หรือ 0.54% ปิดที่ 8.32 ดอลลาร์/บุชเชล
โบรกเกอร์ตลาด CBOT คาดคะเนว่า กลุ่มกองทุนได้ขายสัญญาข้าวโพดไป 3,100 ฉบับ สัญญาข้าวสาลี 2,200 ฉบับ และสัญญาถั่วเหลืองอีก 3,400 ฉบับ
ราคาข้าวโพดปรับตัวลดลง เพราะการสั่งปิดเศรษฐกิจอันเป็นผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ประชาชนไม่ใช้รถและทำให้ความต้องการเอทานอลปรับตัวลดลง ส่วนสัญญาถั่วเหลืองปรับตัวลดลงเนื่องจากจีนดูไม่ต้องการซื้อถั่วเหลืองก่อนที่จะถึงช่วงวันหยุดยาววันแรงงาน โดยนักวิเคราะห์เปิดเผยว่า ตลาดต้องการให้จีนสั่งซื้อถั่วเหลืองในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
สภาวิจัยการเกษตรคาดคะเนว่า สหรัฐจะมีการเพาะปลูกข้าวโพดแล้วเสร็จ 45% ในวันอาทิตย์นี้ ขณะที่สำนักงานสถิติการเกษตรของสหรัฐ (NASS) ในสังกัดกระทรวงเกษตร (USDA) เปิดเผยว่า สหรัฐมีการหว่านเมล็ดข้าวโพดไปแล้ว 27% ถั่วเหลือง 8% และข้าวสาลีฤดูใบไม้ผลิ 14%
ด้าน AgResource ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยสินค้าเกษตรจากชิคาโก เปิดเผยว่า เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มองว่า สหรัฐมีการหว่านเมล็ดข้าวโพดรอบปี 2563 ไปแล้วถึงหนึ่งในสามนับจนถึงเมื่อวานนี้ เนื่องจากดินมีความชื้นในระดับที่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก
AgResource เปิดเผยว่า สภาพอากาศที่เย็นในช่วง 10-15 วันข้างหน้า จะชะลออัตราการงอกของเมล็ดทั่วฝั่งตะวันออกของเขตมิดเวสต์ในสหรัฐ