ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (30 มิ.ย.) สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยสัญญาข้าวโพด โดยได้รับปัจจัยหนุนจากปัจจัยเกี่ยวกับปริมาณผลผลิต
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 15.75 เซนต์ หรือ 4.71% ปิดที่ 3.505 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 5.25 เซนต์ หรือ 1.08% ปิดที่ 4.9175 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 20.75 เซนต์ หรือ 2.41% ปิดที่ 8.8225 ดอลลาร์/บุชเชล
สำนักงานสถิติการเกษตร (NASS) ในสังกัดกระทรวงเกษตรสหรัฐ ได้คาดการณ์ตัวเลขการหว่านเมล็ดข้าวโพดสหรัฐปี 2563 ไว้ที่ 92 ล้านเอเคอร์ ซึ่งน้อยกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ 95.1 ล้านเอเคอร์ โดยเป็นความเคลื่อนไหวที่ผิดคาดและกลายเป็นปัจจัยหนุนราคาข้าวโพด
ส่วนตัวเลขการหว่านเมล็ดถั่วเหลืองสหรัฐปี 2563 เพิ่มขึ้น 300,000 เอเคอร์ เป็น 83.8 ล้านเอเคอร์ ส่วนตัวเลขการหว่านเมล็ดข้าวสาลีสหรัฐอยู่ที่ 44.2 ล้านเอเคอร์ น้อยกว่าการคาดการณ์ประมาณ 500,000 เอเคอร์
NASS ได้คาดการณ์ตัวเลขสต็อกข้าวโพด ณ วันที่ 1 มิ.ย. ไว้ที่ 5,223 ล้านบุชเชล เพิ่มขึ้น 22 ล้านบุชเชลจากปีที่แล้ว และมากกว่าการคาดการณ์ประมาณ 234 ล้านบุชเชล ส่วนสต็อกข้าวสาลีสหรัฐอยู่ที่ 1,044 ล้านบุชเชล มากกว่าการคาดการณ์ 65 ล้านบุชเชล ขณะที่สต็อกถั่วเหลืองสหรัฐอยู่ที่ 1,386 ล้านบุชเชล มากกว่าการคาดการณ์ 5 ล้านบุชเชล โดยตัวเลขสต็อกข้าวโพดสหรัฐนั้นออกมาผิดคาดและเป็นปัจจัยกดดันราคาข้าวโพด
สำหรับสต็อกถั่วเหลืองปี 2563/2564 คาดว่าจะอยู่ที่ 425-475 ล้านบุชเชล ส่วนสต็อกข้าวสาลีสหรัฐปี 2563/2564 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นจนเกือบแตะระดับ 940-960 ล้านบุชเชล ซึ่งเป็นระดับที่เหลือเฟือ
ส่วน AgResource ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาในชิคาโก ได้คาดการณ์ไว้ว่า สัญญาสินค้าเกษตรจะไม่ปรับตัวขึ้นมากนักในระยะยาว แต่ในระยะหลังมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอันเป็นผลจากการปรับตัวลดของตัวเลขการหว่านเมล็ดข้าวโพดและถั่วเหลืองสหรัฐ