ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (14 ก.ย.) สัญญาสินค้าเกษตรปรับตัวขึ้นทั้งกระดาน นำโดยสัญญาข้าวสาลีที่ปิดพุ่งขึ้น หลังมีรายงานยอดส่งออกไปจีนสูงกว่าคาดการณ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวขึ้น 1 เซนต์ หรือ 0.27% ปิดที่ 3.695 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.75 เซนต์ หรือ 0.69% ปิดที่ 5.4575 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.ขยับขึ้น 3.5 เซนต์ หรือ 0.35% ปิดที่ 9.995 ดอลลาร์/บุชเชล
กระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) รายงานว่า มีคำสั่งซื้อข้าวโพดจากจีนเป็นจำนวน 456,000 เมตริกตัน และถั่วเหลือง 129,000 เมตริกตัน ขณะเดียวกันก็มีคำสั่งซื้อถั่วเหลืองจากจุดหมายปลายทางที่ไม่ระบุเข้ามาอีก 318,000 เมตริกตัน
AgResource ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยในชิคาโกเปิดเผยว่า ยอดขายสินค้าเกษตรเป็นเงินสดจะเข้ามาเป็นแรงหนุนราคาซื้อขายสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.ให้ดีดตัวขึ้นทะลุ 10 ดอลลาร์/บุชเชล โดยเมื่อเริ่มมีการเก็บเกี่ยวผลผลิต เกษตรกรก็จะมีการขายสินค้าเกษตรเพิ่มมากขึ้น
AgResource คาดว่า รายงานความคืบหน้าการเพาะปลูกประจำสัปดาห์ที่จะเปิดเผยออกมาในช่วงบ่ายวันนี้อาจอยู่ในระดับทรงตัวหรือมีการเปลี่ยนแปลงเพียง 1% ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดการจัดอันดับสถานะของผลผลิตในอนาคต
ส่วนรายงานการส่งออกประจำสัปดาห์นับจนถึงวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา ระบุว่า สหรัฐได้ส่งออกข้าวโพดไปยังต่างประเทศเป็นจำนวนทั้งสิ้น 34.6 ล้านบุชเชล ส่งออกถั่วเหลือง 47.2 ล้านบุชเชล และส่งออกข้าวสาลี 23.4 ล้านบุชเชล โดยยอดการส่งออกข้าวสาลีไปจีนสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้
สำหรับข้อมูลพยากรณ์อากาศ คาดว่า พายุเฮอริเคนแซลลีมีโอกาสพัดผ่านพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐในช่วงสุดสัปดาห์นี้ซึ่งจะส่งผลให้มีฝนตกบริเวณรัฐอิลลินนอยส์ อินเดียนา และมิชิแกน ในวันที่ 23-24 ก.ย. อย่างไรก็ตาม การคาดคะเนดังกล่าวยังไม่สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจน ขณะเดียวกันก็มีบางข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเขตมิดเวสต์ซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกสำคัญของสหรัฐจะยังต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่แห้งแล้งต่อไปจนถึงสิ้นเดือนก.ย.นี้