ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันศุกร์ (4 มี.ค.) สัญญาข้าวสาลีและข้าวโพดพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสัญญาข้าวสาลีทะยานขึ้นแข็งแกร่งกว่า 5% ท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่า การที่รัสเซียใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครนจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกในภูมิภาคทะเลดำ
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 6.5 เซนต์ หรือ 0.87% ปิดที่ 7.5425 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 59 เซนต์ หรือ 5.29% ปิดที่ 11.7525 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 7.25 เซนต์ หรือ 0.43% ปิดที่ 16.605 ดอลลาร์/บุชเชล
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นักลงทุนกังวลว่าสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกธัญพืชในภูมิภาคทะเลดำ โดยยอดส่งออกข้าวสาลีจากรัสเซียและยูเครนคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 25% ของการค้าข้าวสาลีทั่วโลก และยอดส่งออกข้าวโพดคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 5 ของการส่งออกข้าวโพดในตลาดโลก
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาด CBOT เป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากความไม่แน่นอนที่ว่า กลุ่มผู้ซื้อจะหันไปทุ่มซื้อธัญพืชของสหรัฐในปริมาณมากเพียงใด และสงครามรัสเซีย-ยูเครนจะส่งผลกระทบต่อการเพาะปลูกธัญพืชในรัสเซียและยูเครนเป็นเวลานานเพียงใด
ทั้งนี้ ราคาสินค้าทุกประเภทตั้งแต่ข้าวสาลีไปจนถึงน้ำมันและปุ๋ยปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนได้จุดชนวนความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวยิ่งทำให้ภาวะเงินเฟ้อรุนแรงขึ้นในช่วงเวลาที่อุปสงค์ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง