ราคาสัญญาน้ำมันถั่วเหลืองสหรัฐที่ซื้อขายในตลาด Chicago Board of Trade พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เหนือระดับ 84 เซนต์/ปอนด์ในวันนี้ หลังมีข่าวว่าอินโดนีเซียประกาศระงับการส่งออกน้ำมันปาล์ม
นอกจากนี้ ราคาสัญญาน้ำมันถั่วเหลืองยังได้แรงหนุนจากภาวะแห้งแล้งในอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันถั่วเหลืองมากที่สุดในโลก รวมทั้งการลดลงของปริมาณน้ำมันทานตะวัน อันเนื่องจากการทำสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน
ราคาสัญญาน้ำมันถั่วเหลืองสหรัฐได้พุ่งขึ้นเกือบ 50% นับตั้งแต่ต้นปีนี้
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ผู้นำอินโดนีเซีย ประกาศระงับการส่งออกน้ำมันปาล์มในวันนี้ โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 28 เม.ย. เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำมันปรุงอาหารในประเทศ
"ผมจะจับตาและประเมินการดำเนินนโยบายดังกล่าวเพื่อให้เรามีน้ำมันปรุงอาหารอย่างเพียงพอและมีราคาถูก" ปธน.วิโดโดกล่าว
ทั้งนี้ อินโดนีเซียเป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีปริมาณคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลก
ก่อนหน้านี้ อินโดนีเซียเคยประกาศระงับส่งออกน้ำมันปาล์มในเดือนม.ค. ก่อนที่จะยกเลิกประกาศดังกล่าวในเดือนมี.ค.
การส่งออกน้ำมันปาล์มของอินโดนีเซียเป็นสาเหตุทำให้น้ำมันปรุงอาหารเกิดการขาดแคลน และมีราคาพุ่งขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้นักศึกษาออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาล
ขณะเดียวกัน ผู้นำในภาคอุตสาหกรรมของอินเดียแสดงความไม่พอใจต่อการที่อินโดนีเซียประกาศระงับการส่งออกน้ำมันปาล์มในวันนี้ โดยระบุว่าสิ่งนี้จะกระทบต่อผู้บริโภคทั่วโลก ไม่เพียงแต่ในอินเดีย เนื่องจากน้ำมันปาล์มถือเป็นน้ำมันพืชที่มีการบริโภคมากที่สุดในโลก และมีการใช้ในการผลิตสินค้าหลายอย่าง เช่น บิสกิต มาร์การีน ช็อกโกแลต และน้ำยาซักผ้า
"นี่ไม่ใช่เรื่องที่ดี และไม่มีใครคาดการณ์มาก่อน" เขากล่าว
ส่วนดีลเลอร์รายหนึ่งของบริษัทเทรดดิ้งระดับโลกในเมืองมุมไบกล่าวว่า "ราคาน้ำมันปรุงอาหารจะพุ่งขึ้นไม่หยุดในขณะนี้ โดยผู้ซื้อยังคงต้องพึ่งพาน้ำมันปาล์ม เนื่องจากปริมาณน้ำมันดอกทานตะวันลดลงจากการเกิดสงครามในยูเครน ส่วนน้ำมันถั่วเหลืองก็มีจำกัดเช่นกัน"