สมาชิกคณะกรรมการงบประมาณของรัฐสภาอินโดนีเซียได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) เนื่องจากหวั่นวิตกว่าสต็อกน้ำมันปาล์มจะล้นทะลัก โดยอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มชั้นนำของโลก ได้เริ่มระงับการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบและผลิตภัณฑ์จากปาล์มตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันปรุงอาหารภายในประเทศ
ในการประชุมร่วมกับนางศรี มุลยานี อินทราวาตี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอินโดนีเซีย เหล่าสมาชิกคณะกรรมการงบประมาณของรัฐสภากล่าวว่า พวกเขา "ขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนเรื่องการออกคำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ" แม้ไม่ได้หารือเกี่ยวกับรายละเอียดของนโยบายนี้
ขณะที่นางศรี มุลยานี ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า เธอจะนำข้อเรียกร้องเรื่องดังกล่าวเข้าหารือกับประธานาธิบดีโจโค วิโดโด
ส่วนนายซาฮัต ซินากา ผู้อำนวยการสมาคมอุตสาหกรรมน้ำมันพืชอินโดนีเซีย (GIMNI) กล่าวต่อสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า อุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มเสี่ยงต้องระงับการดำเนินงาน หากรัฐบาลไม่ยอมยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกภายในสิ้นเดือนนี้ โดยเสริมว่า อินโดนีเซียสามารถกักเก็บน้ำมันปาล์มได้ 6 ล้านตันโดยรวมถึงการกักเก็บตามท่าเรือ แต่สต็อกน้ำมันปาล์มในประเทศได้แตะระดับประมาณ 5.8 ล้านตันไปแล้วตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค.