ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวันศุกร์ (27 พ.ค.) สัญญาธัญพืชปิดบวกทั้งกระดาน นำโดยสัญญาข้าวโพดและข้าวสาลีพุ่งขึ้นกว่า 1% โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า อุปทานธัญพืชทั้งสองชนิดจะยังคงอยู่ในภาวะตึงตัวเนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 12.25 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 7.7725 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 14.25 เซนต์ หรือ 1.25% ปิดที่ 11.575 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 5.75 เซนต์ หรือ 0.33% ปิดที่ 17.3225 ดอลลาร์/บุชเชล
สัญญาข้าวโพดและข้าวสาลีดีดตัวขึ้นจากรายงานข่าวที่ว่า รัสเซียจะไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องของชาติตะวันตกที่ต้องการให้รัสเซียเปิดเส้นทางการส่งออกธัญพืชให้กับยูเครนเพื่อแลกกับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร
นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ประณามรัสเซียว่ากำลังใช้อาหารเป็นเครื่องมือในการโจมตียูเครน โดยเอาการส่งออกอาหารจากยูเครนเป็นตัวประกันเพื่อต่อรองกับยูเครนและคนทั่วโลก พร้อมกับเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) กดดันให้รัสเซียเลิกปิดล้อมท่าเรือต่าง ๆ ในยูเครน
ทั้งนี้ รัสเซียและยูเครนส่งออกข้าวสาลีคิดเป็นเกือบ 1 ใน 3 ของการส่งออกทั่วโลก นอกจากนี้ ยูเครนยังเป็นผู้ส่งออกข้าวโพด ข้าวบาร์ลเย์ น้ำมันเมล็ดทานตะวัน และน้ำมันเรพซีดรายใหญ่ของโลก
นักลงทุนจับตากระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) เปิดเผยรายงานความคืบหน้าด้านการเพาะปลูกในวันอังคารนี้ ซึ่งรายงานดังกล่าวจะมีผลต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานสภาพอากาศในพื้นที่เพาะปลูกถั่วเหลือง, ข้าวโพด และข้าวสาลีในรัฐนอร์ธ ดาโกตา, เซาท์ ดาโกตา และมินเนโซตา