ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวันจันทร์ (13 มิ.ย.) สัญญาธัญพืชปิดร่วงลงเป็นส่วนใหญ่ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน โดยตลาด CBOT ถูกกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นทั่วโลก
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 4 เซนต์ หรือ 0.52% ปิดที่ 7.6925 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 0.25 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 10.71 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 38 เซนต์ หรือ 2.18% ปิดที่ 17.075 ดอลลาร์/บุชเชล
AgResource ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยในชิคาโกเปิดเผยว่า ภาวะการซื้อขายในตลาด CBOT ได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลก หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงถึง 0.75% ในการประชุมวันพุธนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 8.6% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี
ทั้งนี้ AgResource คาดการณ์ว่า การที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงในปีนี้ และส่งผลกระทบต่อการบริโภคธัญพืชหรืออาหารในสหรัฐ
ข้อมูลล่าสุดของกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ระบุว่า ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 9 มิ.ย. สหรัฐส่งออกข้าวโพดในปริมาณ 47.2 ล้านบุชเชล, ส่งออกถั่วเหลือง 22.2 ล้านบุชเชล และส่งออกข้าวสาลี 14.3 ล้านบุชเชล
AgResource คาดการณ์ว่า สภาพอากาศที่ร้อนและแห้งในพื้นที่เพาะปลูกธัญพืชของสหภาพยุโรป (EU) จะทำให้ผลผลิตข้าวสาลีของ EU ลดลงอย่างน้อย 5-6 ล้านตัน และคาดว่าปริมาณข้าวสาลีที่เก็บเกี่ยวได้จะอยู่ที่ 130-131 ล้านตัน