ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันจันทร์ (1 ส.ค.) สัญญาสินค้าเกษตรปรับตัวลงทั้งกระดาน นำโดยสัญญาถั่วเหลือง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 10.25 เซนต์ หรือ 1.65% ปิดที่ 6.0975 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 7.5 เซนต์ หรือ 0.93% ปิดที่ 8.0025 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลง 62.5 เซนต์ หรือ 4.26% ปิดที่ 14.06 ดอลลาร์/บุชเชล
สัญญาสินค้าเกษตรร่วงอย่างหนักจากความวิตกว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยและความตึงเครียดระหว่างจีน-สหรัฐ หลังมีรายงานว่านางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ อาจเดินทางเยือนไต้หวันในสัปดาห์นี้
สัญญาข้าวโพดและข้าวสาลีปรับตัวลง หลังจากที่เรือบรรทุกธัญพืชแล่นออกจากท่าเรือยูเครนไปยังประเทศเลบานอนผ่านช่องทางการขนส่งภายใต้ข้อตกลงการรับประกันความปลอดภัยในการเดินทาง ทำให้เกิดความหวังว่ายูเครนจะกลับมาส่งออกธัญพืชได้ในปริมาณมากอีกครั้ง หลังจากที่ถูกสกัดกั้นการส่งออกนับตั้งแต่ถูกรัสเซียบุกโจมตีเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา
สัญญาถั่วเหลืองร่วงหนักในช่วงต้นเดือนใหม่จากแรงเทขายทำกำไรหลังจากที่สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้นเกือบ 12% ในสัปดาห์ที่แล้ว รวมถึงได้รับปัจจัยลบจากจีนซึ่งเป็นประเทศผู้ซื้อถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดของโลก หลังมีรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ค.ของจีนชะลอตัวลง แม้ว่าจะมีการผ่อนคลายมาตรสกัดโควิด-19 ภายในประเทศในไตรมาสที่ 2 ก็ตาม
นอกจากนี้ ราคาสัญญาถั่วเหลืองและสัญญาข้าวโพดยังปรับตัวลงตามราคาน้ำมันดิบอีกด้วย โดยภาวะเช่นนี้เกิดขึ้นเป็นบางครั้ง เนื่องจากมีการใช้น้ำมันถั่วเหลืองในไบโอดีเซลและสหรัฐใช้ข้าวโพดเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับเอทานอล
เทรดเดอร์ยังคงจับตาดูสภาพอากาศในเขตเพลนส์และเขตมิดเวสต์ฝั่งตะวันตกของสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตข้าวโพดและถั่วเหลืองในสหรัฐ โดยตลาด CBOT ยังมีความผันผวนในระดับสูงในช่วงเดือนส.ค. ขณะที่ AgResource ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยในชิคาโกมองว่าสภาพการเพาะปลูกในสหรัฐจะถดถอยลงไปจนถึงวันที่ 15 ส.ค.