ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันศุกร์ (4 ส.ค.) สัญญาข้าวสาลีและถั่วเหลืองปิดร่วงลง หลังจากมีรายงานว่า สภาพอากาศที่เอื้ออำนวยแก่การเพาะปลูกในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐอาจจะทำให้ผลผลิตธัญพืชทั้งสองชนิดปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.75 เซนต์ หรือ 0.62% ปิดที่ 6.1 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 6.75 เซนต์ หรือ 0.86% ปิดที่ 7.7575 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 9 เซนต์ หรือ 0.63%ปิดที่ 14.0875 ดอลลาร์/บุชเชล
แมค เซลเลอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทสโตนเอ็กซ์กล่าวว่า สัญญาข้าวโพดปิดในแดนบวกเนื่องจากแรงซื้อทางเทคนิค ขณะที่สัญญาข้าวสาลีและถั่วเหลืองปิดตลาดอ่อนแรงลง หลังจากมีรายงานว่า พื้นที่เพาะปลูกในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐเริ่มมีฝนตกลงมา ซึ่งคาดว่าจะเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกข้าวสาลีและถั่วเหลือง และอาจทำให้ผลผลิตธัญพืชทั้งสองชนิดปรับตัวเพิ่มขึ้น
ไอเอสเอช มาร์กิต อะกรีบิสิเนสคาดการณ์ว่า การผลิตถั่วเหลืองในปี 2565 ของสหรัฐจะอยู่ที่ 4.530 ล้านบุชเชล และอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยต่อพื้นที่ 1 เอเคอร์จะอยู่ที่ 51.8 บุชเชล ซึ่งตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวอยู่ในระดับสูงกว่าตัวเลขประมาณการเดือนก.ค.ของกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA)
อย่างไรก็ดี สัญญาบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่ฟื้นตัวช่วยให้สัญญาถั่วเหลืองปรับตัวลงไม่มากนัก โดยข้อมูลจาก USDA ระบุว่า ผู้ส่งออกภาคเอกชนของสหรัฐได้ส่งถั่วเหลืองให้กับจีนในปริมาณ 132,000 ตัน และส่งออกถั่วเหลืองอีก 132,000 ตันไปยังประเทศที่ไม่ได้ระบุจดหมายปลายทาง