ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันจันทร์ (26 ก.ย.) สัญญาสินค้าเกษตรปรับตัวลงทั้งกระดาน นำโดยสัญญาข้าวสาลีร่วงลงกว่า 2%
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 10.5 เซนต์ หรือ 1.55% ปิดที่ 6.6625 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 22.5 เซนต์ หรือ 2.56% ปิดที่ 8.58 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 14.5 เซนต์ หรือ 1.02% ปิดที่ 14.1125 ดอลลาร์/บุชเชล
สัญญาสินค้าเกษตรปรับตัวลงทั้งกระดาน โดยได้รับผลกระทบจากความวิตกว่าเศรษฐกิจโลกจะถดถอย ประกอบกับสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น นอกจากนี้ รายงานพยากรณ์อากาศที่ว่าเขตมิดเวสต์ในสหรัฐจะมีสภาพอากาศแห้งซึ่งส่งผลดีต่อการเพาะปลูกนั้น ยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อราคาสัญญาสินค้าเกษตรอีกด้วย
นอกจากปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคแล้ว นักวิเคราะห์ยังประมาณการด้วยว่ารัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ของโลกนั้น คาดว่าจะมีผลผลิตข้าวสาลีเพิ่มขึ้นมากเป็นพิเศษ โดย MARS บริการตรวจสอบพืชผลของสหภาพยุโรป ปรับประมาณการผลผลิตข้าวสาลีของรัสเซียในปี 2565 แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 95.0 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากระดับ 88.8 ล้านตันในเดือนมิ.ย. ขณะเดียวกัน ซอฟอีคอน (Sovecon) บริษัทที่ปรึกษาของรัสเซีย เพิ่มตัวเลขประมาณการดังกล่าวไปถึง 100 ล้านตัน
นายแมตต์ แอมเมอร์แมนน์ ผู้จัดการความเสี่ยงด้านสินค้าโภคภัณฑ์จากสโตนเอ็กซ์ (StoneX) กล่าวว่า "เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะเป็นภาระต่อการส่งออกของสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่คาดว่ารัสเซียจะเก็บเกี่ยวข้าวสาลีได้เป็นจำนวนมาก"
"นอกจากนี้ ข้าวโพดและถั่วเหลืองยังปรับตัวลง เนื่องจากมีรายงานว่าอากาศในสหรัฐสัปดาห์นี้จะแห้ง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อผลผลิตของสหรัฐ" นายแอมเมอร์แมนน์กล่าว