ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันจันทร์ (14 พ.ย.) สัญญาสินค้าเกษตรปรับตัวไร้ทิศทาง โดยสัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองปรับตัวลง ขณะที่สัญญาข้าวสาลีปรับตัวขึ้น
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 0.75 เซนต์ หรือ 0.11% ปิดที่ 6.5725 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 4.75 เซนต์ หรือ 0.58% ปิดที่ 8.185 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 9.5 เซนต์ หรือ 0.66% ปิดที่ 14.405 ดอลลาร์/บุชเชล
การปรับตัวลงของน้ำมันดิบเป็นปัจจัยกดดันราคาสัญญาข้าวโพดและถั่วเหลือง เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าจีนจะใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังพบการติดเชื้อเพิ่มขึ้น
อนึ่ง สัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบเป็นบางครั้ง เนื่องจากข้าวโพดและน้ำมันถั่วเหลืองเป็นวัตถุดิบในการผลิตเอทานอลและไบโอดีเซล
นอกจากราคาน้ำมันดิบแล้ว การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยลบที่ทำให้ข้าวโพดและถั่วเหลืองส่งออกของสหรัฐแข่งขันได้น้อยลงในตลาดโลกอีกด้วย
นายทอมม์ ฟิตเซนไมเออร์ นักวิเคราะห์จาก Summit Commodity Brokerage กล่าวว่า "น้ำมันดิบกดราคาข้าวโพดลง เนื่องจากข้าวโพดเป็นองค์ประกอบหนึ่งในเอทานอล ส่วนยอดส่งออกข้าวโพดทำผลงานดีกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ดีมากนัก"
อย่างไรก็ดี สัญญาข้าวสาลีปรับตัวสูงขึ้นจากสัญญาณความต้องการข้าวสาลีส่งออกทั่วโลก ขณะที่เทรดเดอร์ยังคงติดตามแนวโน้มการต่ออายุข้อตกลงการส่งออกธัญพืชยูเครนก่อนถึงกำหนดเส้นตายในสัปดาห์หน้า โดยรัสเซียกล่าวถึงการเจรจากับองค์การสหประชาชาติ (UN) ในเรื่องข้อตกลงดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า "ค่อนข้างสร้างสรรค์" แต่ยังไม่มีการบรรลุข้อตกลง