ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันศุกร์ (10 มี.ค.) สัญญาข้าวโพดและข้าวสาลีดีดตัวขึ้น โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และแรงซื้อเพื่อชดเชยการทำชอร์ตเซล (Short Covering) ขณะที่สัญญาถั่วเหลืองยังคงปิดในแดนลบ
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 5.75 เซนต์ หรือ 0.94% ปิดที่ 6.1725 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 13.5 เซนต์ หรือ 2.03% ปิดที่ 6.7925 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 3.75 เซนต์ หรือ 0.25% ปิดที่ 15.07 ดอลลาร์/บุชเชล
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวลง 0.68% แตะที่ระดับ 104.5913 เมื่อวันศุกร์
การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยหนุนสัญญาข้าวโพดและข้าวสาลีฟื้นตัวในวันศุกร์ หลังจากราคาสัญญาร่วงลงอย่างหนักในวันพฤหัสบดี อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่า ปรากฏการณ์สภาพอากาศแบบเอลนีโญ (El Nino) อาจทำให้ผลผลิตธัญพืชซึ่งรวมถึงข้าวโพดในสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น
ศูนย์คาดการณ์สภาพอากาศของสำนักงานบริการด้านสภาพอากาศแห่งชาติสหรัฐเปิดเผยว่า สภาพอากาศแบบลานีญา (La Nina) ได้สิ้นสุดลงแล้ว และสภาพอากาศแบบเอลนีโญอาจเริ่มก่อตัวขึ้นในช่วงฤดูร้อนของปีนี้ และอาจดำเนินไปจนถึงฤดูใบไม้ร่วง
ทั้งนี้ เอลนีโญ คือสภาวะที่อุณหภูมิของพื้นผิวมหาสมุทรอบอุ่นขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกและตอนกลาง ซึ่งอาจเพิ่มปริมาณฝน และทำให้แนวโน้มพืชผลในสหรัฐสดใสขึ้น
นักลงทุนจับตาสัญญาณบ่งชี้ว่าจะมีการขยายข้อตกลงการส่งออกธัญพืชจากยูเครนออกไปจนถึงเดือนเม.ย.หรือไม่ ซึ่งหากมีการบรรลุข้อตกลงก็จะส่งผลให้อุปทานธัญพืชในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น