ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวันศุกร์ (5 พ.ค.) สัญญาธัญพืชปิดบวกทั้งกระดาน นำโดยสัญญาข้าวสาลีพุ่งขึ้นกว่า 2% ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการส่งออกธัญพืชของยูเครนผ่านทางภูมิภาคทะเลดำ
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 7.5 เซนต์ หรือ 1.27% ปิดที่ 5.965 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 15.25 เซนต์ หรือ 2.36% ปิดที่ 6.6025 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 18.75 เซนต์ หรือ 1.32% ปิดที่ 14.365 ดอลลาร์/บุชเชล
สัญญาธัญพืชดีดตัวขึ้น หลังจากนายฟาร์ฮาน ฮัก รองโฆษกองค์การสหประชาชาติ (UN) กล่าวว่า ยูเครน รัสเซีย ตุรกี และ UN ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการเปิดทางให้เรือบรรทุกธัญพืชส่งออกล็อตใหม่ยูเครนแล่นผ่านภูมิภาคทะเลดำ
นายฮักกล่าวว่า ที่ผ่านมานั้น การลำเลียงขนส่งธัญพืชจากยูเครนเป็นไปอย่างล่าช้า พร้อมกับแสดงความกังวลว่าเรือบรรทุกธัญพืชหลายลำของยูเครนอาจเผชิญปัญหาติดขัด หากทุกฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการเปิดทางให้เรือบรรทุกธัญพืชล็อตใหม่แล่นผ่านทะเลดำได้ภายในเดือนนี้
อย่างไรก็ดี ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ได้รับปัจจัยหนุนในระหว่างวัน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 253,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.4% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าอาจอยู่ที่ 3.6% และทำสถิติต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2512
นักลงทุนจับตาผลผลิตข้าวสาลีพันธุ์ฤดูหนาวของสหรัฐในปีนี้ ท่ามกลางความกังวลที่ว่าผลผลิตจะออกมาต่ำกว่าในปีที่แล้ว เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกปรับตัวลดลง
ทางด้านนักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของมาร์กิตคาดการณ์ว่า ผลผลิตข้าวสาลีพันธุ์ Hard Red Winter (HRW) ของสหรัฐจะอยู่ที่ 588 ล้านบุชเชล และคาดว่าผลผลิตข้าวสาลีพันธุ์ Soft Red Winter (SRW) จะอยู่ที่ 387 ล้านบุชเชล