ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันศุกร์ (16 มิ.ย.) สัญญาธัญพืชพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นำโดยข้าวสาลีทะยานขึ้นกว่า 4% หลังจากมีรายงานว่า พื้นที่เพาะปลูกธัญพืชในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐเผชิญกับสภาพอากาศที่แห้งแล้งอย่างรุนแรง
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 23 เซนต์ หรือ 4% ปิดที่ 5.975 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 26.5 เซนต์ หรือ 4.01% ปิดที่ 6.88 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 3.87% ปิดที่ระดับ 13.4225 ดอลลาร์/บุชเชล
เทอร์รี ลินน์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Linn & Associates ในเมืองชิคาโกกล่าวว่า รายงานสภาพอากาศที่แห้งแล้งในพื้นที่เพาะปลูกธัญพืชในเขตมิดเวสต์เป็นปัจจัยผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาธัญพืชอย่างคึกคัก ก่อนที่ตลาดจะหยุดยาว 3 วัน โดยในวันจันทร์ที่ 19 มิ.ย. ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT จะปิดทำการเนื่องในวันจูนทีนธ์ (Juneteenth) เพื่อรำลึกถึงการสิ้นสุดของการค้าทาสในอเมริกา
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรสหรัฐระบุว่า การเก็บเกี่ยวข้าวโพดและถั่วเหลืองในปี 2566 อาจจะไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งแล้งและร้อนจัด
นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับข้อตกลงการส่งออกธัญพืชในภูมิภาคทะเลดำยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สนับสนุนแรงซื้อสัญญาธัญพืช โดยนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) ได้แสดงความกังวลว่ารัสเซียอาจจะยกเลิกข้อตกลงในวันที่ 17 ก.ค. ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะอนุญาตให้มีการส่งออกธัญพืชและปุ๋ยในช่วงสงครามอย่างปลอดภัยจากท่าเรือยูเครน 3 แห่งที่ตั้งอยู่ในบริเวณทะเลดำ
ทางด้านนายมิโคลา โซลสกี รัฐมนตรีกระทรวงนโยบายการเกษตรและอาหารของยูเครน คาดการณ์ว่า การส่งออกธัญพืชและเมล็ดพืชน้ำมันของยูเครนอาจจะลดลงประมาณ 40% ในปีนี้