ข้อตกลงส่งออกธัญพืชจากยูเครนผ่านเส้นทางทะเลดำเมื่อปีที่แล้วจะสิ้นสุดลงในวันนี้ (17 ก.ค.) หากรัสเซียไม่ตกลงที่จะต่อสัญญาดังกล่าว ซึ่งสัญญาที่ว่านี้มีสหประชาชาติและตุรกีเป็นคนกลาง เพื่อรับมือกับวิกฤตอาหารโลกที่ย่ำแย่ลงสืบเนื่องจากการที่รัสเซียรุกรานยูเครนตั้งแต่เดือนก.พ.ปีที่แล้ว
เรือบรรทุกธัญพืชลำสุดท้ายภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวออกจากท่าในยูเครนเมื่อวานนี้ (16 ก.ค.) โดยการที่รัสเซียรุกรานและปิดล้อมท่าเรือต่าง ๆ ของยูเครนทำให้ราคาธัญพืชทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก เนื่องจากยูเครนและรัสเซียส่งออกธัญพืชมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ยูเครนได้ส่งออกข้าวโพด ข้าวสาลี และธัญพืชอื่น ๆ ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวไปเกือบ 33 ล้านตันแล้ว
ทั้งนี้ รัสเซียได้ขู่ว่าจะยกเลิกสัญญาโดยระบุว่า ข้อเรียกร้องยกระดับการส่งออกธัญพืชและปุ๋ยไม่ได้รับการตอบสนอง นอกจากนี้รัสเซียยังวิพากษ์วิจารณ์อีกว่า ธัญพืชที่ส่งออกมีไม่เพียงพอไปถึงประเทศยากจน
ด้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) มีกำหนดจะหารือประเด็นยูเครนในการประชุมวันนี้ (17 ก.ค.) โดยในการประชุมครั้งนี้คาดว่าจะมีรัฐมนตรีต่างประเทศยุโรปหลายคนเข้าร่วมด้วย
สหประชาชาติเปิดเผยว่า โครงการอาหารโลก (WFP) ได้ซื้อข้าวสาลีจากยูเครนไปมากถึง 80% ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 50% ในปี 2564 และ 2565 โดยโครงการอาหารโลกได้จัดส่งข้าวสาลียูเครนประมาณ 725,000 เมตริกตันไปยังอัฟกานิสถาน ซูดาน จิบูตี เอธิโอเปีย เคนยา โซมาเลีย และเยเมน เพื่อต่อสู้กับความอดอยาก