ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันศุกร์ (4 ส.ค.) สัญญาธัญพืชปิดบวกทั้งกระดาน นำโดยสัญญาข้าวสาลี หลังจากมีรายงานว่ายูเครนโจมตีฐานทัพเรือของรัสเซียซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์กลางการส่งออกของรัสเซียในภูมิภาคทะเลดำ
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.75 เซนต์ ปิดที่ 4.9725 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 6 เซนต์ ปิดที่ 6.33 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ ปิดที่ 13.3325 ดอลลาร์/บุชเชล
กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่า ยูเครนใช้โดรนใต้น้ำโจมตีฐานทัพเรือของรัสเซียในช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ 4 ส.ค. และเรือรบของรัสเซียได้ทำการทำลายโดรนทิ้งแล้ว โดยฐานทัพเรือแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือโนโวรอสซีสค์ (Novorossiysk) ในทะเลดำ ซึ่งเป็นหนึ่งในท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในทะเลดำ และเป็นศูนย์กลางการส่งออกที่สำคัญของรัสเซีย
แคสเปียน ไปป์ไลน์ คอนซอร์เทียม (Caspian Pipeline Consortium) บริษัทผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ของคาซัคสถาน ซึ่งมีคลังน้ำมันเพื่อขนส่งลงเรือที่ท่าเรือโนโวรอสซีสค์ กล่าวว่า การโจมตีครั้งนี้ส่งผลให้ต้องระงับการเดินเรือทั้งหมดเป็นการชั่วคราว
ทั้งนี้ ข่าวการโจมตีพื้นที่ใกล้กับท่าเรือโนโวรอสซีสค์ของรัสเซียทำให้ตลาดวิตกกังวลจะส่งผลกระทบต่ออุปทานธัญพืชในตลาดโลก และหากการโจมตีดังกล่าวได้รับการยืนยันก็จะนับเป็นครั้งแรกที่ยูเครนโจมตีท่าเรือพาณิชย์หลักของรัสเซีย
นอกจากนี้ สัญญาข้าวสาลียังได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า รัฐบาลอินเดียกำลังพิจารณาปรับลดภาษีการนำเข้าข้าวสาลี
นักลงทุนจับตาความพยายามของชาติต่าง ๆ ในการทำให้รัสเซียกลับสู่ข้อตกลงส่งออกธัญพืชจากยูเครนผ่านเส้นทางทะเลดำ โดยนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐจะยังคงดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อรับประกันว่า รัสเซียจะสามารถส่งออกอาหารได้อย่างเสรี หากรัสเซียรื้อฟื้นข้อตกลงส่งออกธัญพืชของยูเครน
ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียจะกลับสู่ข้อตกลง ทันทีที่ชาติตะวันตกตอบสนองต่อเงื่อนไขของรัสเซียตามที่มีการระบุในข้อตกลงดังกล่าว