อินเดียบังคับใช้มาตรการควบคุมการส่งออกข้าวมากขึ้นเพื่อรับประกันความมั่นคงด้านอาหารในประเทศ โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดของอินเดียซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวชั้นนำนั้น มีแนวโน้มจะทำให้ปริมาณข้าวทั่วโลกลดลงอีก
กระทรวงการคลังอินเดียประกาศเมื่อวันศุกร์ (25 ส.ค.) ว่า รัฐบาลเรียกเก็บภาษี 20% สำหรับการส่งออกข้าวนึ่งโดยมีผลบังคับใช้ในทันที ขณะนี้อินเดียได้จำกัดการขายข้าวทั้งหมดที่ไม่ใช่พันธุ์บาสมาติในต่างประเทศทั้งหมด ซึ่งคิดเป็นประมาณ 80% ของการส่งออกข้าวทั้งหมด และอินเดียมีส่วนแบ่งตลาดในการค้าข้าวทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 40%
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาข้าวในเอเชียพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 15 ปีเมื่อต้นเดือนนี้ และอาจปรับตัวสูงขึ้นอีก ส่งผลให้ต้นทุนของประเทศผู้นำเข้า เช่น ฟิลิปปินส์ และบางประเทศในแอฟริกา เพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ มาตรการกีดกันทางการค้าล่าสุดของอินเดียสอดคล้องกับความพยายามเชิงรุกที่จะลดราคาอาหารในประเทศก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในต้นปีหน้า ซึ่งนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี จะลงสมัครเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 3
นายบี.วี. กฤษณะ เรา ประธานสมาคมผู้ส่งออกข้าวของอินเดียเปิดเผยว่า "ด้วยความเคลื่อนไหวนี้ ราคาข้าวในประเทศจะลดลง และนั่นจะช่วยรัฐบาลในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อด้านอาหาร"
"แต่ราคาข้าวในตลาดโลกจะสูงขึ้น และผู้ซื้อจะต้องแบกรับราคาที่เพิ่มขึ้น จะมีการเจรจารอบใหม่ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในสัญญาบางฉบับ"