ราคาข้าวที่พุ่งขึ้นในฟิลิปปินส์อาจเป็นสัญญาณเตือนสำหรับผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่อื่น ๆ เนื่องจากผลกระทบจากการจำกัดการส่งออกข้าวของอินเดียยังคงส่งผลกระทบไปทั่วเอเชียและแอฟริกาตะวันตก
เงินเฟ้อจากราคาข้าวในฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นในอัตราสูงที่สุดในรอบเกือบ 5 ปีในเดือนส.ค. ซึ่งย้ำเตือนถึงภาวะวิกฤตข้าวในปี 2561 ซึ่งนำไปสู่การยกเลิกข้อจำกัดในการนำเข้าที่ดำเนินมานานถึง 20 ปี ขณะที่ธนาคารกลางฟิลิปปินส์เตือนในสัปดาห์นี้ว่า ธนาคารพร้อมที่จะกลับมาใช้มาตรการคุมเข้มทางการเงินอีกครั้ง หากจำเป็น
"เรากำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างมาก" เชอร์ลีย์ มุสตาฟา นักเศรษฐศาสตร์จากองค์การอาหารและการเกษตร (FAO) แห่งสหประชาชาติกล่าว
"แรงกดดันด้านราคากำลังรุนแรงขึ้นซึ่งเป็นผลจากข้อจำกัดต่าง ๆ"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การที่อินเดียห้ามการส่งออกข้าวนั้นได้ส่งผลกระทบต่อตลาดโลก และกระตุ้นให้ประเทศต่าง ๆ เร่งนำเข้าข้าวเพื่อพยายามควบคุมราคาข้าวที่เพิ่มขึ้นในประเทศ โดยข้าวถือเป็นอาหารหลักของประชากรหลายพันล้านคนในเอเชียและแอฟริกา
ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ของฟิลิปปินส์ และนายฝั่ม มิญ จิ๊ญ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้พบปะกันนอกรอบการประชุมสุดยอดอาเซียนในกรุงจาการ์ตา และกำลังวางแผนทำข้อตกลงระยะเวลา 5 ปี ขณะที่เซเนกัลกำลังดำเนินการติดต่อทางการทูตกับอินเดีย เช่นเดียวกับการดำเนินการของประเทศอื่น ๆ รวมถึงกินีและสิงคโปร์ เพื่อรับประกันปริมาณข้าว
อินโดนีเซียได้เตรียมลงนามในข้อตกลงซื้อข้าวมากถึง 250,000 ตันต่อปีกับกัมพูชาเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี หลังจากอินโดนีเซียสัญญาที่จะจัดหาข้าว 10 กิโลกรัมต่อเดือนให้กับครอบครัวที่ยากจนหลายล้านครอบครัวในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้
ประเทศอื่นๆ ก็กำลังดำเนินการเพื่อควบคุมราคาข้าวที่สูงขึ้น โดยมาเลเซียได้จำกัดการซื้อข้าว และเริ่มตรวจสอบผู้ค้าส่งและโรงสีเชิงพาณิชย์หลังจากมีข้อกล่าวหาว่าข้าวในประเทศถูกขายเป็นข้าวนำเข้าในราคาที่สูงขึ้น
ส่วนเมียนมาได้กำหนดระบบที่บังคับให้ทำการบันทึกปริมาณข้าวที่เก็บไว้เพื่อควบคุมราคาข้าวในประเทศ และป้องกันการเก็งกำไร
ทั้งนี้ ราคาข้าวในเอเชียได้ปรับตัวลงเล็กน้อยในสัปดาห์นี้ แต่ก็ยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 15 ปีนับตั้งแต่ปี 2551