ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันศุกร์ (22 ก.ย.) สัญญาธัญพืชปิดบวกทั้งกระดาน นำโดยสัญญาข้าวสาลีดีดตัวขึ้นกว่า 0.6% โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงช้อนซื้อ หลังจากสัญญาธัญพืชร่วงลงในช่วงก่อนหน้านี้
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ หรือ 0.42% ปิดที่ 4.7725 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.75 เซนต์ หรือ 0.65% ปิดที่ 5.795 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 2.5 เซนต์ หรือ 0.19% ปิดที่ระดับ 12.9625 ดอลลาร์/บุชเชล
นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาข้าวโพด,ข้าวสาลีและถั่วเหลืองร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันพฤหัสบดี (21 ก.ย.) นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า อุปทานธัญพืชในตลาดโลกมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกในอาร์เจนตินาและออสเตรเลียเผชิญสภาอากาศแห้งแล้ง นอกจากนี้ สงครามในยูเครนยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการค้าธัญพืชในภูมิภาคทะเลดำ
อย่างไรก็ดี การแข็งค่าของดอลลาร์ได้สกัดแรงบวกของสัญญาธัญพืชในระหว่างวัน เนื่องจากดอลลาร์ที่แข็งค่าส่งผลให้สัญญาธัญพืชที่กำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.21% แตะที่ระดับ 105.5876 เมื่อวันศุกร์
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ดอลลาร์แข็งค่านั้น มาจากมุมมองของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ยังคงสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยนางมิเชล โบว์แมน ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกบอร์ดผู้ว่าการเฟด และนางซูซาน คอลลินส์ ประธานเฟด สาขาบอสตัน ต่างก็สนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูง