สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 6 เซนต์ หรือ -1.34% ปิดที่ 4.4025 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 6.75 เซนต์ หรือ -1.12% ปิดที่ 5.935 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 15 เซนต์ หรือ -1.24% ปิดที่ 11.9425 ดอลลาร์/บุชเชล
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาข้าวโพดและข้าวสาลีร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ โดยได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงและสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
ขณะเดียวกัน สัญญาถั่วเหลืองร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี เนื่องจากเทรดเดอร์คาดว่าอาร์เจนตินาและบราซิลจะมีผลผลิตถั่วเหลืองเป็นจำนวนมากแม้จะมีปัญหาสภาพอากาศก็ตาม
นายแมตต์ แอมเมอร์แมนน์ ผู้จัดการความเสี่ยงด้านสินค้าโภคภัณฑ์จากสโตนเอ็กซ์ (StoneX) กล่าวว่า "ความกังวลเรื่องสภาพอากาศในอเมริกาใต้ได้หายไปแล้ว ซึ่งส่งผลให้คนหันมากังวลว่าถั่วเหลืองและข้าวโพดสหรัฐจะขาดดีมานด์ หากจีนต้องการซื้อถั่วเหลืองในเร็ว ๆ นี้ จีนก็มีแนวโน้มจะหันไปซื้อของบราซิล"
ทั้งนี้ บรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่า ดีมานด์ของจีนต่อสินค้าโภคภัณฑ์มีความไม่แน่นอนมากขึ้น เนื่องจากจีนกำลังเผชิญวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ ภายหลังจากศาลสูงฮ่องกงมีคำสั่งให้ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ทำการขายสินทรัพย์และปิดกิจการ (Liquidation)