ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันพุธ (3 เม.ย.) สัญญาสินค้าเกษตรฟื้นตัวบวกขึ้นทั้งกระดานจากปัจจัยทางเทคนิค นำโดยสัญญาข้าวสาลี
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 5.25 เซนต์ หรือ +1.23% ปิดที่ 4.3175 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 10.75 เซนต์ หรือ +1.97% ปิดที่ 5.5600 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 8.25 เซนต์ หรือ +0.70% ปิดที่ 11.8225 ดอลลาร์/บุชเชล
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สัญญาข้าวสาลีปิดพุ่งขึ้นจากปัจจัยทางเทคนิค หลังจากที่ราคาร่วงลง 2 วันติดต่อกันหลังจากที่กระทรวงเกษตรของสหรัฐ (USDA) เปิดเผยในรายงานความคืบหน้าของการเพาะปลูกพืชทั่วประเทศฉบับแรกเมื่อวันจันทร์ (1 เม.ย.)
รายงานดังกล่าวระบุว่า สภาพข้าวสาลีฤดูหนาว 56% ของสหรัฐมีคะแนนในระดับดีถึงดีเยี่ยม ซึ่งแม้จะต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ แต่ถือว่าสูงกว่าคะแนนก่อนฤดูหนาวที่ 50% และเป็นคะแนนระดับสูงสุดสำหรับช่วงเวลานี้ของปีนับตั้งแต่ปี 2562 นอกจากนี้ ยังมีรายงานพยากรณ์อากาศว่า ฝนจะตกชุกในพื้นที่ทางใต้ของบริเวณเกรตเพลนส์ (Great Plains) ในสหรัฐอีกด้วย ซึ่งเป็นผลดีต่อการเพาะปลูกข้าวสาลี
บริษัทที่ปรึกษา SovEcon ประมาณการว่า รัสเซียจะส่งออกข้าวสาลีจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ในเดือนมี.ค. ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อตลาดข้าวสาลี นอกจากนี้ รัสเซียยังมีสต็อกข้าวสาลีจำนวนมาก ซึ่งช่วยลดความกังวลเรื่องปัญหาสภาพอากาศแห้งแล้งที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้
ด้านสัญญาข้าวโพดก็ฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อวันอังคาร (2 เม.ย.) ด้วยปัจจัยทางเทคนิค ประกอบกับมีแรงซื้อเพื่อปิดสถานะชอร์ต (Short covering) ขณะที่เทรดเดอร์กำลังจับตาสภาพอากาศในแถบมิดเวสต์ก่อนที่เกษตรกรจะเริ่มปลูกข้าวโพดในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ฝนและหิมะในช่วงกลางสัปดาห์คาดว่าจะช่วยเพิ่มความชื้นในดิน ขณะที่อุณหภูมิคาดว่าจะสูงขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้
สำหรับสัญญาถั่วเหลือง ในช่วงแรกราคาลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน เนื่องจากดีมานด์ชะลอตัวและมีซัพพลายเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากจากอเมริกาใต้ แต่ต่อมา ราคาสัญญาถั่วเหลืองดีดตัวขึ้นปิดบวกจากปัจจัยทางเทคนิคและแรงซื้อเพื่อปิดสถานะชอร์ต