ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันอังคาร (9 เม.ย.) สัญญาสินค้าเกษตรปิดลบทั้งกระดาน นำโดยสัญญาข้าวสาลีที่ได้รับแรงกดดันจากการทุ่มตลาดของรัสเซีย ตลอดจนแนวโน้มสภาพอากาศที่ดีขึ้นสำหรับการเพาะปลูกในสหรัฐ
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 4.25 เซนต์ หรือ -0.98% ปิดที่ 4.3125 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 8.00 เซนต์ หรือ -1.41% ปิดที่ 5.5775 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 7.00 เซนต์ หรือ -0.59% ปิดที่ 11.7450 ดอลลาร์/บุชเชล
เทรดเดอร์หลายรายกล่าวว่า มีรายงานพยากรณ์อากาศว่าในเขตเกรดเพลนส์ของสหรัฐจะมีฝนตกมากขึ้นในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นผลดีต่อพืชผลข้าวสาลี และในพื้นที่เดลตาทางตอนใต้ของสหรัฐคาดว่าจะมีสภาพอากาศแห้งแล้งมากขึ้น ซึ่งหมายความว่าการเพาะปลูกข้าวโพดจะเป็นไปตามกำหนดการและไม่ล่าช้า
นายออสติน ชโรเดอร์ นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์อาวุโสจากบรุกเลอร์ มาร์เก็ตติ้ง (Brugler Marketing) กล่าวว่า ข่าวสภาพอากาศที่ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ตลาดประหลาดใจ และส่งผลให้ราคาสัญญาข้าวสาลีปรับตัวลง
นอกจากนี้ อาร์กัส (Argus) บริษัทวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ได้ปรับเพิ่มประมาณการผลผลิตข้าวสาลีของรัสเซียอีกด้วย ซึ่งยิ่งทำให้ราคาสัญญาข้าวสาลีปรับตัวลงไปอีก
"รัสเซียได้ทุ่มตลาดด้วยข้าวสาลีราคาถูกเป็นจำนวนมาก ทำให้สหรัฐแข่งขันได้ยาก" นายชโรเดอร์กล่าว
ขณะเดียวกัน กระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) เปิดเผยรายงานเมื่อวันจันทร์ (8 เม.ย.) ว่า 56% ของข้าวสาลีฤดูหนาวทั้งหมดอยู่ในสภาพดีถึงดีเยี่ยม ซึ่งเป็นระดับที่ดีที่สุดในช่วงเวลานี้ของปีนับตั้งแต่ปี 2563 แม้มีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากสภาพอากาศแห้งแล้งในอดีตในเขตเกรตเพลนส์ที่ปลูกข้าวสาลีก็ตาม
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เทรดเดอร์ยังได้ปรับพอร์ตการลงทุนก่อนการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในวันพุธนี้ (10 เม.ย.) พร้อมจับตา 2 ข้อมูลสำคัญในวันพรุ่งนี้ (11 เม.ย.) ได้แก่ รายงานอุปทานและอุปสงค์รายเดือนของ USDA และรายงานการคาดการณ์ผลผลิตระดับชาติรายเดือนจากโคแนบ (Conab) ซึ่งเป็นสำนักงานด้านพืชผลเกษตรของบราซิล