ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันอังคาร (23 เม.ย.) สัญญาธัญพืชปิดบวกทั้งกระดาน นำโดยสัญญาข้าวสาลี
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 3.25 เซนต์ หรือ +0.74% ปิดที่ 4.4300 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค. พุ่งขึ้น 15.25 เซนต์ หรือ +2.60% ปิดที่ 6.0275 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 5.50 เซนต์ หรือ +0.47% ปิดที่ 11.8200 ดอลลาร์/บุชเชล
ราคาสัญญาข้าวสาลีพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน เนื่องจากสภาพการเพาะปลูกข้าวสาลีฤดูหนาวของสหรัฐย่ำแย่ลง โดยรายงานความคืบหน้าพืชผลประจำสัปดาห์ของกระทรวงเกษตรกรรมสหรัฐ (USDA) ระบุว่า มีข้าวสาลีฤดูหนาวของสหรัฐเพียง 50% เท่านั้นที่อยู่ในสภาพดีถึงดีเยี่ยม ลดลงจาก 55% ในสัปดาห์ก่อนหน้า และต่ำกว่าประมาณการเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ในผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์ถึง 4 จุดเปอร์เซ็นต์
นายมาร์ก โซเดอร์เบิร์ก นักวิเคราะห์จาก ADM Investor Services กล่าวว่า สาเหตุที่ตัวเลขดังกล่าวออกมาต่ำกว่าคาดเกิดขึ้นหลังจากที่สภาพอากาศแห้งแล้งส่งผลกระทบต่อพื้นที่เพาะปลูกข้าวสาลีเมล็ดแข็งพันธุ์ Hard Red Winter ในรัฐโอคลาโฮมาและรัฐแคนซัส นอกจากนี้ สภาพอากาศแห้งแล้งทางตอนใต้ของรัสเซียและช่วงอากาศหนาวเย็นในยุโรปตะวันตกยังเพิ่มความกังวลอีกด้วย
ด้านข้าวโพดและถั่วเหลืองก็ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากความเสี่ยงในการเพาะปลูกช่วงฤดูใบไม้ผลิของสหรัฐ โดยนายโซเดอร์เบิร์กกล่าวว่า การปลูกข้าวโพดออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย แต่สภาพอากาศที่มีฝนตกหนักทางตอนกลางของสหรัฐอาจทำให้ความคืบหน้าของการเพาะปลูกล่าช้าในช่วงปลายสัปดาห์
"มันเป็นดาบสองคม คือทำให้ความคืบหน้าในการเพาะปลูกล่าช้า แต่ก็ช่วยฟื้นฟูพื้นที่ที่ประสบภัยแล้งบางส่วนก่อนเข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูก" นายโซเดอร์เบิร์กกล่าว
USDA ประมาณการว่า ณ วันอาทิตย์ที่ผ่านมา (21 เม.ย.) มีการปลูกข้าวโพดไปแล้ว 12% สอดคล้องกับประมาณการของนักวิเคราะห์ และมีการปลูกถั่วเหลืองไปแล้ว 8% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์โดยเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ที่ 7%
ทั้งนี้ บรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่า ตลาดธัญพืชกำลังเผชิญกับแรงซื้อเพื่อชดเชยการขายชอร์ต (short covering) โดยกองทุนมีการชอร์ตสุทธิเป็นจำนวนมากในสัญญาธัญพืช