ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันจันทร์ (13 พ.ค.) สัญญาธัญพืชปิดบวกทั้งกระดาน นำโดยสัญญาข้าวสาลีที่พุ่งขึ้นกว่า 3% หลังจากมีรายงานว่าพื้นที่เพาะปลูกข้าวสาลีสำคัญ ๆ ในรัสเซียเผชิญภาวะน้ำค้างแข็งติดต่อกันเป็นเวลาหลายคืน ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าพืชผลจะได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 2.75 เซนต์ หรือ +0.60% ปิดที่ 4.5850 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 23.50 เซนต์ หรือ +3.54% ปิดที่ 6.8700 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 0.50 เซนต์ หรือ +0.04% ปิดที่ 12.1950 ดอลลาร์/บุชเชล
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สัญญาข้าวสาลีพุ่งขึ้นต่อเนื่องหลังจากที่ภาวะน้ำค้างแข็งได้สร้างความเสียหายต่อพื้นที่เพาะปลูกธัญพืชทางตอนใต้ของรัสเซียอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ IKAR บริษัทที่ปรึกษาด้านการเกษตรของรัสเซีย ปรับลดการคาดการณ์ผลผลิตข้าวสาลีของรัสเซียลงเหลือ 86 ล้านเมตริกตัน จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 91 ล้านเมตริกตัน และปรับลดยอดส่งออกข้าวสาลีลงเหลือ 47 ล้านเมตริกตัน จาก 50.5 ล้านเมตริกตัน
นอกจากนี้ พื้นที่เพาะปลูกธัญพืชที่สำคัญ 3 แห่งของรัสเซียได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากเกิดภาวะน้ำค้างแข็งอีกด้วย
ด้านสัญญาข้าวโพดก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน เนื่องจากเทรดเดอร์กังวลเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเพาะปลูกข้าวโพดในสหรัฐ หลังจากที่เกษตรกรต้องเผชิญกับความล่าช้าจากฝนตก ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า กระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) จะระบุในรายงานประจำสัปดาห์ที่จะมีขึ้นในภายหลังว่า การเพาะปลูกข้าวโพดในสหรัฐเสร็จสมบูรณ์แล้ว 49%
ขณะเดียวกัน สัญญาถั่วเหลืองก็ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยหลังเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมรุนแรงในรัฐฮิวกรังจีดูซูว (Rio Grande do Sul) ประเทศบราซิล ส่งผลให้ บริษัทที่ปรึกษาด้านการเกษตรของบราซิล ประเมินผลผลิตถั่วเหลืองในปี 2566/2567 ไว้ที่ 142.82 ล้านตัน ลดลงจาก 143.18 ล้านตันในการคาดการณ์ครั้งก่อน โดยบริษัทฯ ประเมินความเสียหายของถั่วเหลืองจากเหตุน้ำท่วมล่าสุดไว้ที่ 2.4 ล้านตัน