ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันพุธ (22 พ.ค.) สัญญาสินค้าเกษตรปรับตัวไร้ทิศทาง โดยสัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองปรับตัวขึ้น ขณะที่สัญญาข้าวสาลีปรับตัวลง
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 3.25 เซนต์ หรือ +0.71% ปิดที่ 4.6125 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 4.50 เซนต์ หรือ -0.65% ปิดที่ 6.9300 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 10.0 เซนต์ หรือ +0.81% ปิดที่ 12.4625 ดอลลาร์/บุชเชล
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวานนี้ กองทุนสินค้าโภคภัณฑ์เป็นผู้ซื้อสุทธิของสัญญาข้าวโพด, ถั่วเหลือง, กากถั่วเหลือง และน้ำมันถั่วเหลือง แต่เป็นผู้ขายสุทธิของสัญญาข้าวสาลี
IKAR บริษัทที่ปรึกษาด้านการเกษตรของรัสเซียปรับลดคาดการณ์การเก็บเกี่ยวข้าวสาลีลงเหลือ 83.5 ล้านเมตริกตันจาก 86 ล้านตัน เนื่องจากสภาพอากาศในฤดูใบไม้ผลิที่ร้อนผิดปกติประกอบกับมีภาวะน้ำค้างแข็งในใจกลางพื้นที่อู่ข้าวอู่น้ำของรัสเซีย นอกจากนี้ IKAR ยังปรับลดคาดการณ์ยอดส่งออกข้าวสาลีของรัสเซียลงเหลือ 45 ล้านตันจาก 47 ล้านตันอีกด้วย
นักวิเคราะห์ระบุว่า เทรดเดอร์จับตาดูสภาพอากาศในรัสเซียอย่างใกล้ชิด โดยคาดว่าฝนจะตกในอีก 11-15 วันข้างหน้า ซึ่งอาจช่วยบรรเทาความแห้งแล้งได้บ้าง
นอกจากนี้ พืชผลในยูเครนก็เผชิญกับความแห้งแล้งและภาวะน้ำค้างแข็งด้วยเช่นกัน แม้ว่าหน่วยงานด้านการพยากรณ์อากาศของรัฐกล่าวว่าน้ำค้างแข็งไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับพืชผลมากนัก แต่เทรดเดอร์ก็ยังคงซื้อขายอย่างระมัดระวังหลังจากที่บริษัทที่ปรึกษา APK-Inform ออกคำเตือนเมื่อวันจันทร์ (20 พ.ค.) ว่าอาจเกิดการสูญเสียผลผลิต
ด้านสัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองปรับตัวขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากการเพาะปลูกธัญพืชทั้งสองในสหรัฐมีความคืบหน้าเร็วกว่าที่คาด
ทั้งนี้ 2 รัฐสำคัญด้านการปลูกข้าวโพดของบราซิลคาดว่าจะมีผลผลิตข้าวโพดรอบที่สองของประเทศน้อยลงเนื่องจากภัยแล้ง ตามรายงานของ Agroconsult บริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจการเกษตรที่จะเริ่มทัวร์ภาคสนามทั่วประเทศในสัปดาห์นี้