ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันจันทร์ (1 ก.ค.) สัญญาสินค้าเกษตรปิดบวกทั้งกระดาน นำโดยสัญญาข้าวสาลี
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ หรือ +0.25% ปิดที่ 3.9825 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 16.75 เซนต์ หรือ +2.92% ปิดที่ 5.9025 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 7 เซนต์ หรือ +0.63% ปิดที่ 11.1100 ดอลลาร์/บุชเชล
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สัญญาข้าวสาลีปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเทรดเดอร์แห่เข้าซื้อเพื่อปิดสถานะชอร์ต ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับปริมาณผลผลิตข้าวสาลีของรัสเซีย ขณะเดียวกัน ราคาสัญญาข้าวสาลีที่ค่อนข้างถูกก็ดึงดูดให้เกิดการเข้าช้อนซื้อ
ดาริน เฟสส์เลอร์ ที่ปรึกษาด้านการป้องกันความเสี่ยงของ Lakefront Futures and Options กล่าวว่า "ตอนนี้ตลาดมีแรงเทขายมากเกินไป เทรดเดอร์ไม่อยากขายชอร์ตในตลาดแบบนี้ถ้ายังไม่รู้ตัวเลขปริมาณผลผลิตจากรัสเซีย"
นอกจากนี้ ราคาข้าวสาลียังได้แรงหนุนจากความต้องการข้าวสาลีสหรัฐที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการเก็บเกี่ยวข้าวสาลีฤดูหนาวของสหรัฐที่มีความคืบหน้าเร็วกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี
ส่วนราคาข้าวโพดแทบไม่ขยับ เนื่องจากรายงานพื้นที่เพาะปลูกของกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (28 มิ.ย.) ระบุว่าเกษตรกรปลูกข้าวโพดได้มากกว่าที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ในเดือนมี.ค. ประกอบกับการคาดการณ์สภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดในสหรัฐ
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก USDA ณ วันจันทร์ ระบุว่า สัดส่วนข้าวโพดที่อยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีเยี่ยมของสหรัฐอยู่ในระดับต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ 1 จุด ขณะที่ถั่วเหลืองสูงกว่าคาด 1 จุด
ด้านราคาถั่วเหลืองได้รับแรงหนุนจากความต้องการจากจีนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงได้รับอานิสงส์จากราคากากถั่วเหลืองและน้ำมันถั่วเหลืองที่แข็งแกร่งขึ้น
เทรดเดอร์และนักวิเคราะห์หลายรายระบุว่า จีนได้จองซื้อถั่วเหลืองในปริมาณที่สูงขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากราคาถั่วเหลืองที่ต่ำลงและความเป็นไปได้ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะกลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกสมัย ซึ่งอาจจุดชนวนความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐขึ้นอีกครั้ง