ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันพุธ (3 ก.ค.) สัญญาสินค้าเกษตรปรับตัวไร้ทิศทาง โดยสัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองปิดบวก ขณะที่สัญญาข้าวสาลีปิดลบ
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.5 เซนต์ หรือ +0.37% ปิดที่ 4.0350 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 7 เซนต์ หรือ -1.20% ปิดที่ 5.7400 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 8.5 เซนต์ หรือ +0.76% ปิดที่ 11.2150 ดอลลาร์/บุชเชล
ราคาสัญญาถั่วเหลืองปรับตัวขึ้นเมื่อวานนี้ โดยนักวิเคราะห์ระบุว่าสาเหตุหลักมาจากแรงซื้อเพื่อปิดสถานะชอร์ต หลังจากที่ร่วงลงใกล้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีเมื่อต้นสัปดาห์เนื่องจากมีความกังวลเรื่องอุปทานล้นตลาดและความต้องการถั่วเหลืองส่งออกของสหรัฐที่ซบเซา
"ตลาดถั่วเหลืองกำลังอยู่ในช่วงพักตัวหลังจากที่ถูกเทขายมากเกินไป" นายทอมม์ ฟิตเซนไมเออร์ นักวิเคราะห์จาก Summit Commodity Brokerage ระบุ
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) จะเลื่อนการเปิดเผยตัวเลขส่งออกธัญพืชและถั่วเหลืองประจำสัปดาห์ไปเป็นวันศุกร์นี้ (5 ก.ค.) เนื่องจากวันพฤหัสบดี (4 ก.ค.) เป็นวันหยุดเนื่องในวันชาติสหรัฐ โดยก่อนหน้านี้ USDA ระบุในรายงานประจำวันว่า ผู้ส่งออกขายถั่วเหลืองให้ผู้ซื้อนิรนามจำนวน 110,100 เมตริกตัน
รายงานของ USDA เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (28 มิ.ย.) ระบุว่า เกษตรกรสหรัฐปลูกถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น 3% ในปีนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้คาดการณ์ว่าผลผลิตในปีนี้จะมีมากขึ้น แต่เนื่องจากช่วงสำคัญของการเจริญเติบโตของถั่วเหลืองมักจะอยู่ในเดือนส.ค. เทรดเดอร์จึงยังไม่แน่ใจว่าปริมาณผลผลิตจะออกมาเป็นเท่าไร
"ถ้าอยากให้ผู้ซื้อกลับมาสนใจตลาดอีกครั้งหรือเป็นแรงจูงใจให้กองทุนต่าง ๆ เข้าซื้อเพื่อปิดสถานะชอร์ต ก็คงต้องให้มีปัญหาเกิดขึ้นกับพืชผลก่อน"
ด้านเกษตรกรสหรัฐยังคงเก็บธัญพืชและถั่วเหลืองที่เก็บเกี่ยวจากปีที่แล้วไว้ในสต็อก เนื่องจากราคาสินค้าตกต่ำ
ขณะเดียวกัน บริษัทที่ปรึกษา SovEcon ได้ปรับเพิ่มประมาณการผลผลิตข้าวสาลีของรัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตข้าวสาลีรายใหญ่ที่สุดของโลก