ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันจันทร์ (5 ส.ค.) สัญญาธัญพืชปิดบวกทั้งกระดาน เนื่องจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงช่วยเอื้อประโยชน์ต่อการส่งออกสินค้าเกษตรของสหรัฐ นอกจากนี้ กองทุนต่าง ๆ ยังได้เข้าซื้อคืนเพื่อปิดสถานะชอร์ตบางส่วนอีกด้วย ส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 4.25 เซนต์ หรือ +1.10% ปิดที่ 3.9075 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 0.50 เซนต์ หรือ +0.09% ปิดที่ 5.3950 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 13.50 เซนต์ หรือ +1.31% ปิดที่ 10.4075 ดอลลาร์/บุชเชล
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงเมื่อวานนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ ทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง ขณะเดียวกันก็คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่น ๆ
นายแรนดี เพลส นักวิเคราะห์จาก Hightower Report กล่าวว่า แนวโน้มค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเป็นปัจจัยบวกต่อราคาข้าวโพดและถั่วเหลือง เนื่องจากมักจะช่วยให้สินค้าส่งออกของสหรัฐมีราคาถูกลง
นายเพลสกล่าวเสริมว่า กองทุนสินค้าโภคภัณฑ์มียอดการขายชอร์ตในข้าวโพดและถั่วเหลืองในระดับสูงอยู่แล้ว ดังนั้น เมื่อตลาดหุ้นปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับราคาพลังงานและโลหะที่ร่วงลง กองทุนต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องลดความเสี่ยงและเข้าซื้อคืนเพื่อปิดสถานะชอร์ตบางส่วน
ด้านสภาพอากาศในสหรัฐคาดว่าจะแห้งแล้งเป็นส่วนใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อการเก็บเกี่ยวข้าวสาลีฤดูหนาวในช่วงสุดท้ายของสหรัฐ
หลังจากตลาดปิดทำการ กระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) รายงานว่า คะแนนประเมินสภาพพืชผลข้าวโพดของสหรัฐปรับตัวลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แต่คะแนนประเมินสภาพพืชผลถั่วเหลืองกลับปรับตัวดีขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย ขณะที่คะแนนประเมินสภาพพืชผลข้าวสาลีคงที่
ส่วนในสหภาพยุโรป การเก็บเกี่ยวข้าวสาลีมีความคืบหน้าขึ้น โดยข้อมูล ณ วันที่ 29 ก.ค. ระบุว่า เกษตรกรฝรั่งเศสเก็บเกี่ยวข้าวสาลีเมล็ดอ่อนได้แล้ว 67% เพิ่มขึ้นจาก 41% ในสัปดาห์ก่อนหน้า แต่ยังคงล่าช้ากว่าปกติ เนื่องจากฝนที่ตกลงมาในช่วงฤดูร้อนส่งผลกระทบต่อการทำงาน