ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันอังคาร (6 ส.ค.) สัญญาธัญพืชปรับตัวไร้ทิศทาง โดยถั่วเหลืองและข้าวโพดร่วงลงเนื่องจากความต้องการที่ลดลงและค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ขณะที่ตลาดการเงินทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวจากแรงเทขายครั้งใหญ่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (5 ส.ค.)
ขณะเดียวกัน ราคาข้าวสาลีปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่อียิปต์เปิดประมูลซื้อข้าวสาลีครั้งใหญ่ถึง 3.8 ล้านเมตริกตัน เพื่อครอบคลุมการนำเข้าระหว่างเดือนต.ค. 2567 ถึงเม.ย. 2568 ถือเป็นการประมูลซื้อครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นอกจากนี้ ข้าวสาลียังมีปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ของ Argus Media ที่ระบุว่า ผลผลิตข้าวสาลีเมล็ดอ่อนในฝรั่งเศสปีนี้จะต่ำสุดในรอบ 41 ปี เนื่องจากฝนตกหนักทำให้พื้นที่เพาะปลูกและผลผลิตลดลง
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 2.00 เซนต์ หรือ -0.51% ปิดที่ 3.8875 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 3.75 เซนต์ หรือ +0.70% ปิดที่ 5.4325 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 14.00 เซนต์ หรือ -1.35% ปิดที่ 10.2675 ดอลลาร์/บุชเชล
นายคาร์ล เซตเซอร์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Consus Ag Consulting ชี้ว่า ความต้องการพืชน้ำมันทั่วโลกในระดับต่ำเป็นปัจจัยกดดันราคาถั่วเหลือง
นายเซตเซอร์กล่าวว่า จีนซื้อน้อยและไม่ได้นำเข้าจากสหรัฐมากนัก โดยน้อยกว่า 1 ใน 3 ของความต้องการถั่วเหลืองของจีนมาจากสหรัฐ แม้ราคาจะแข่งขันได้ก็ตาม "นี่แสดงให้เห็นว่าตอนนี้ดีมานด์ของเราไม่มี"
เมื่อวันจันทร์ ราคาข้าวโพดและข้าวสาลีทรงตัวเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากกองทุนต่าง ๆ ซื้อคืนเพื่อปิดสถานะชอร์ต และดอลลาร์อ่อนค่าช่วยหนุนการส่งออก
แต่ในวันอังคาร ข้าวโพดและข้าวสาลีแกว่งตัวร่วงลงเนื่องจากดอลลาร์แข็งค่า ทำให้สินค้าส่งออกสหรัฐแข่งขันได้ยากขึ้น ขณะที่นักลงทุนหันไปจับตารายงานอุปสงค์-อุปทานรายเดือนของกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ที่จะเผยแพร่ในวันที่ 12 ส.ค. นี้
"ตลาดเริ่มกังวล" นายเซตเซอร์กล่าว โดยนักวิเคราะห์บางรายคาดว่าพื้นที่เพาะปลูกจะลดลง ขณะที่บางรายเชื่อว่าผลผลิตจะยังคงอยู่ในระดับสูง