ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันจันทร์ (12 ส.ค.) สัญญาธัญพืชปิดปรับตัวไร้ทิศทาง หลังกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) เปิดเผยรายงานภาวะอุปสงค์และอุปทานสินค้าเกษตรโลกประจำเดือน
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 6.5 เซนต์ หรือ +1.73% ปิดที่ 3.8325 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 5.75 เซนต์ หรือ -1.06% ปิดที่ 5.3675 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 16.50 เซนต์ หรือ -1.65% ปิดที่ 9.8600 ดอลลาร์/บุชเชล
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สัญญาถั่วเหลืองร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 หลัง USDA คาดการณ์ว่า ผลผลิตถั่วเหลืองของสหรัฐปีนี้จะสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 4.589 พันล้านบุชเชล สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ในทางกลับกัน สัญญาข้าวโพดปรับตัวขึ้นเนื่องจาก USDA ประเมินพื้นที่เก็บเกี่ยวข้าวโพดต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้
"ดูเหมือนเกษตรกรจะมองเห็นว่าราคา (ธัญพืช) ตกต่ำและต้นทุนการผลิตพุ่งสูง เลยตัดสินใจปลูกข้าวโพดน้อยลงแล้วหันไปปลูกถั่วเหลืองมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณรัฐมินนิโซตา ไอโอวา และเขตเพลนส์ทางตอนเหนือที่มีน้ำมากเกินไป พวกเขาก็เปลี่ยนไปปลูกถั่วเหลืองแทน" นายจิม เกอร์ลัค ประธาน A/C Trading กล่าว
ขณะเดียวกัน สัญญาข้าวสาลีถูกกดดันจากการเปิดเผยราคาเสนอขายในการประมูลซื้อข้าวสาลีครั้งใหญ่ที่สุดของอียิปต์ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าข้าวสาลีจากแถบทะเลดำมีราคาถูกกว่าของสหรัฐพอสมควร
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานจัดซื้อธัญพืชของรัฐบาลอียิปต์เปิดเผยในภายหลังว่า ตนซื้อข้าวสาลีเพียง 280,000 เมตริกตัน ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 3.8 ล้านเมตริกตัน โดยเทรดเดอร์ระบุว่า อียิปต์ไม่สามารถซื้อได้ตามเป้า เนื่องจากราคาที่เสนอในการประมูลครั้งนี้สูงเกินคาด
ทั้งนี้ ราคาข้าวสาลีปรับตัวลดลงอย่างจำกัด เนื่องจากข่าวเชิงลบเกี่ยวกับผลผลิตข้าวสาลีในฝรั่งเศสและประเทศอื่น ๆ ในยุโรป โดยคาดว่าผลผลิตข้าวสาลีเมล็ดอ่อนของฝรั่งเศสในปี 2567 จะลดลงถึง 25% จากปีที่แล้ว หลังจากเผชิญกับฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง