ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันพุธ (14 ส.ค.) สัญญาธัญพืชปิดบวกทั้งกระดาน โดยราคาถั่วเหลืองฟื้นตัวจากปัจจัยทางเทคนิค หลังจากที่ราคาร่วงลงไปแตะจุดต่ำสุดในรอบ 4 ปี ส่วนราคาข้าวโพดและข้าวสาลีปรับตัวขึ้นตามถั่วเหลือง
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 3.25 เซนต์ หรือ +0.86% ปิดที่ 3.8100 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 27.50 เซนต์ หรือ +5.20% ปิดที่ 5.5625 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 6.00 เซนต์ หรือ +0.62% ปิดที่ 9.6850 ดอลลาร์/บุชเชล
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (12 ส.ค.) กระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ได้ออกรายงานภาวะอุปสงค์และอุปทานสินค้าเกษตรโลกประจำเดือน โดยปรับเพิ่มตัวเลขการผลิตถั่วเหลืองของสหรัฐสำหรับปี 2567/68 ให้สูงเป็นประวัติการณ์
นายดอน รูส ประธานบริษัทนายหน้าซื้อขายสินค้าเกษตร U.S. Commodities กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ส่งผลให้เกิดการเทขายถั่วเหลืองอย่างหนัก แต่ "บางทีผลกระทบจากรายงานผลผลิตครั้งนี้อาจผ่านพ้นไปแล้ว"
ราคาข้าวโพดปรับตัวตามการฟื้นตัวของถั่วเหลือง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ราคาร่วงลงเนื่องจากข้อมูลของ USDA เมื่อวันจันทร์ชี้ว่า สภาพพืชผลข้าวโพดในสหรัฐออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวในวันพุธยังช่วยหนุนราคาถั่วเหลืองและข้าวโพดด้วย เนื่องจากธัญพืชทั้งสองชนิดนี้ถูกใช้ในการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ
แนวโน้มสภาพอากาศยังคงเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกข้าวโพดและถั่วเหลืองในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์กำลังจับตาสถานการณ์ภัยแล้งในยูเครน ซึ่งผู้ผลิตได้เตือนว่าหากไม่มีฝนตก ผลผลิตข้าวโพดอาจลดลงถึง 1 ใน 3 จากปีก่อน
ราคาข้าวสาลียังคงถูกกดดันจากอุปทานราคาถูกจากแถบทะเลดำ โดยหน่วยงานจัดซื้อธัญพืชของรัฐบาลอียิปต์รายงานว่าได้ประมูลซื้อข้าวสาลีเพียง 280,000 เมตริกตันเมื่อวันจันทร์ ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 3.8 ล้านเมตริกตันอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ระบุว่า หน่วยงานจัดซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ของรัฐบาลอียิปต์ (GASC) ได้เริ่มเจรจาซื้อข้าวสาลีเพิ่มเติมอีกประมาณ 1.8 ล้านเมตริกตัน จากผู้ขายหลายราย รวมถึงรัสเซีย